Episode 2 Chapter 1 - เครื่องจักรแห่งการค้นหา
ขอบคุณสำหรับคำติชมทุกรายการ แต่ถ้าจะดี......ขอเป็นแบบ คุณ..Addinfor....... ชอบ....นายแน่มาก
ขอเติมหน่อยหนึ่งนะครับ Difference…and โดน......ไม่เฉพาะ SEM
ทุกธุรกิจ ถ้าทำได้ล่ะก็ ช่องในบุ้คแบงค์ ไม่พอเติม
ตัวอย่าง iPhone ชัดมาก....แตกต่างและโดน นี่เป็น Style ของ Apple แต่ตอนนี้ Apple กำลังจะตก
จุดแข็งของ Apple คือ จ๊อบ.
ขณะเดียวกัน จุดอ่อน ก็คือ จ๊อบ..
เพราะขาดไม่ได้ เอาคนใหม่มาโชว์แทน ไม่ผ่าน ลงพุง ไม่มี Style
มือถือที่จะมาเทียบชั้น iPhone 3G และไม่ให้ 4G ได้เกิด มันต้อง เจ๋งกว่า......
แบบไหน........ไม่รู้ รู้แต่ว่า อยากได้ตัวที่มี คีย์บอร์ด แล้วสามารถใช้สองมือพิมพ์ได้ จอใหญ่กว่านี้หน่อย ถ้าเจ้าไหนทำได้ จะต่อคิวซื้อ............
ง่ายจะตาย แค่ยิงแสงจากเครื่อง.......ออก 2 รู รูแรก ออกด้านหน้าให้เป็นคีย์บอร์ด ใช้ Infrared ก็ได้ รูสอง ออกด้านหลังยิงออกประมาณ Projector ภาพไม่ต้อง 1080 HD Wide Screen Touch Screen ไม่ต้อง แค่ Netbook 8.9 inch under $200 ก็พอ.........Battery คงพัฒนาไม่ทัน..... เอาเป็นว่าใช้ไฟนีออน มาผลิตเป็นพลังงานได้ก็พอ........
ไปทำมา จะซื้อ...
ทิ้งท้ายไว้วันก่อน จะเล่น Android G1 ทำไปเรียบร้อย 1 โพส........... ไม่ติดผลการค้นหา ซัก KW ของเค้าแรง ทั้งที่หยอด เพิ่ม เติมขยาย สลับท่า หน้าหลัง บนล่าง หยอดกระทั่งรุ่น HTC ยังไม่ติด........under $100 ก็ไม่ติด เสียวที่รูปก็ไม่ติด เหลืออีก 3 คีย์ ไม่ได้หยอด.......... เดี๋ยวคืนนี้ จะลองอัด G2 เพิ่ม.......
จากการเขียน G1 ได้ความรู้เพิ่ม เลยเอามาเทียบกับ iPhone ผล Google Phone G1 vs Apple iPhone 3G เป็น KW ใน 3 ตัวที่จะทำต่อ ถ้ามีเครื่องทั้ง 2 ตัว จะทำลง Youtube เอา Traffic ให้ Blogspot มันพังไปเลย เอ๊ะ ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องก็ได้นี่หว่า ที่เขียนไป ยังไม่ได้เช็คว่ามีคนทำหรือยัง........
ผล G1 แพ้ไป 115-113 สูสีมาก ขายน่ะขายได้เพราะสาวก Google เยอะ แต่ที่แพ้ แพ้ตั้งแต่ยกแรก เริ่มต้นโชว์ Features เอานิ้ว Slide จอ แค่นี้ก็แพ้แล้ว มันไม่......ตื่นเต้น เคยเห็นแล้ว
Google เก่ง Software ยังไม่เก่ง Hardware...........
เหมือนผมจะยโสธร ที่ไปแข่งทำ KW พวกนี้ ถ้ามีเวลา อยากให้ทำกันดู ทำเล่นๆ ก็ได้ ถ้าทำติด ก็รับทรัพย์ ไม่ Adsense ก็ Affiliate ถ้าไม่ติด ก็ ไม่ได้เสียอะไร ......
เขียนไม่เกิน 5 Post หา Specs มาใส่ หา Review อังกฤษมาแปลเป็นไทย Modify หน่อย วิจารณ์ตรงนั้น เทียบโน้น เดานี่ ใส่ความเห็นตัวเองเข้าไป แล้วแปลกลับไปเป็นเยอรมัน จากเยอรมันไปเป็นฝรั่งเศส ต่อไปจีน จากจีนไปญี่ปุ่น แล้ววกกลับมาอังกฤษ ลองอ่านดู ถ้าอ่านรู้เรื่อง ผ่าน............โพสเลย ถ้าไม่รู้เรื่องก็ปรับให้ตัวเองรู้เรื่องเป็นพอ
จริงๆ แค่ ไทย-อังกฤษ อังกฤษ-ไทย ก็พอ เขียนไปงั้น เผื่อมีคนบ้าๆ บอๆ พอๆ กับผมทำ..
ป้าด...........รู้ภาษาขนาดนั้น ใช่ไอ้น้อง.....จะเอาอีกซัก 20 ภาษายังได้ ภาษาฮิบรู ก็ทำได้
ถ้า Google Translate มันมีน่ะ ทำเร็วพอๆ กับ Submit หรือโปรโมทลิงค์
(เวลาใช้ ถ้าสำนวนมากไป ออกทะเลหมด ต้องเขียนแบบง่ายๆ ถึงจะรู้เรื่อง)
ผมรู้อยู่ 2 ภาษา ภาษาไทย กับภาษาลาว รู้สึกตัวว่าเรารู้ภาษาลาว เพราะว่าไปเที่ยวเวียงจันทร์ แล้วอ่านออก...........โดยไม่ต้องสะกดมาก
Epi 2 ตอนแรกว่าจะเป็นเรื่อง KW แต่เปลี่ยนใจเอาเรื่อง Search Engine ดีกว่า
แปลเป็นไทย ฉบับเฮียสอ เช่นเดิม search = ปืนกล engine = เครื่องมือประหัตประหาร ในสงคราม
โอ้..........ลุงสอ Search Engine นี่มันอาวุธชัดๆ
กลับมาเข้าเืรื่อง
กาลครั้งหนึ่ง.........นานมาแล้ว Once upon a time ……….a long….. time ago…..
ไอ้ตัวเล็ก.....เพิ่งสอบผ่านอนุบาล 1 มันบอก ไม่ซ่าย....ป๊า...... กาลครั้งสองดี้..... ครับๆ กาลครั้งทู...........นานมาแล้ว ไม่ซ่าย..........ป๊ามั่ว. กาลครั้งโฟร์ดีกว่า...........เอาไงแน่ จะฟังมั้ย...
ไม่ได้จะเล่าให้หนูฟังซะหน่อย......ป๊า จะเล่านิทานให้คนแก่ฟัง…….ฟังทั้งที่รู้อยู่แล้ว
สงคราม SE อุบัติขึ้นเมื่อไหร่ เหลือที่จะเดา มันเป็นสงครามที่ไม่มีวันจบ........จนกว่า จะมีใครคิดอาวุธ ที่ดีกว่าออกมา
แต่ที่แน่ๆ มันเริ่มมีกลิ่นอาย........
ตั้งแต่ หมดยุค เอลวิส ถูกแทนที่ด้วย สตีฟ วาย ไอ้จอนห์ แจ๊วบอง โจวี เริ่มออกทัวร์ ตบตูดด้วย กุหลาบปลายปืน Knock Knock Knockin on heaven’s door วออ.... แงว แงว Yeh Yeh Yehhhhh ร้องซ้ำไปเรื่อยๆๆๆ........ จนกว่ามือกลองจะส่งท่อนจบ........ อยากให้ตีไปจนกว่าไอนักร้องนำ มันจะตายคาเวที เคาะประตูสวรรค์ แต่ร้องดังนรกแตก... เคาะแย่ เคาะแย่ ทั้งเพลง....... 4-5 นาที เนื้อมีอยู่แค่นี้..........เลยจำได้
ร้องเพลงต้องแหกปากและลูบเป้า ชาตรี พี่แจ้ เสือดำใส่สูทสีชมพู (ตัวดำทั้งวง แต่ใส่สูทสีชมพู) กำลังถูกเขี่ยออก ด้วยปิ๊ก ของสองพี่น้อง เว้อ เว้อ ถ้าพี่โป่ง โอฬาร.......ปากไม่กว้าง ไม่มีทางดัง ไมเคิล แจ็คสัน กำลังมาเมืองไทย บางเวทีคนไทยมี 2 หัว เวลาเต้นต้องเอาหัวควายมาชู ไม่ใช่ซิ บางทีมันมี 3 หัว ขี่คออีกคน บัง........เจอถุงเป๊ปซี่ บรรจุ น้ำแข็งหลอด เข้าไป......... ร่วง ลงมาต่อยคนข้างๆ เฉย....... สะใจ ย้ายที่นั่งดีกว่า.........ตาดี ชิ หาย เหล่มาทางนี้อีก ตูกลับก่อนแล้วกัน......
แต่ยุคนั้น ผมชอบ เพลง นางพญากับคนป่า Search ป้าบเข้าให้ Exteen อีกแล้ว มันที่ทำบล็อกหรือ ค่ายเพลง
ยุค 90 เริ่มขึ้น มหาสงคราม Search Engine ไม่มีทางเกิดขึ้นได้.......
ถ้ามหาวิทยาลัยของอเมริกา ไม่รับเด็ก 5 คนเข้ามาเรียน………….
และถ้าเด็ก 5 คนไม่ฟังเพลงเคาะประตูสวรรค์ ไม่มีทางที่มันจะคิดสูตรน้ำจิ้ม MK ได้
ตอนนั้น ไอ้ตง พึ่งจะรู้จัก Computer ครั้งแรก 8 บิท หรือ 16 บิท จำไม่ได้
นึกออกอยู่อย่างเดียว หน้าครู ที่คุมอยู่ที่เครื่อง และเสียงที่ไม่มีวันลืม...
กดปุ่มค่อยๆ นะจ๊ะ ปุ่มที่ติดสติ๊กเกอร์ไว้เท่านั้น ปุ่มอื่นไม่ต้องยุ่ง ถ้ายุ่ง คูรจะหักคะแนน
อ้าว........เสร็จแล้ว ไปได้
3 คนต่อไปเข้ามา.........
ผม....ยังไม่ได้ ถูกเนื้อต้องตัว มันเลยคับ อาจารย์......
จบ Episode 2 Chapter 1
>>>>>>>>>>>>>
อ่าน ประวัติเด็กนรก 5 คน ………
ไม่ใช่ซิ ตอนนี้ต้องเรียกว่า ปรมาจารย์
ภาษาไทยมีสั้นมาก จนไม่อยากจะเขียน ภาษาอังกฤษมีเยอะ ขี้เกียจแปล ที่สำคัญ Google Translate แปลได้ เหมือนขาก........สเลส แปลไม่รู้เรื่อง ยิ่งมีศัพท์เทคนิคเยอะ ยิ่งไม่ได้เรื่อง
ไม่ได้ตำหนิ นะครับ ภาษาเป็นหนึ่ง ในสิ่งมหัศจรรย์ของมนุษย์ ที่คอมพิวเตอร์ เลียนแบบได้ยากที่สุด ทำได้ระดับนี้ก็ OK อยู่ และที่ไม่มีวันเลียนแบบได้ คือ ความคิดสร้างสรรค์ เพราะมันทำตามคำสั่งเท่านั้น
รู้สึกพอๆ กับ ช่วงแรกๆ 10 ปี ก่อน ให้ใช้คำว่า สดมภ์ กับ แผงแป้นอักขระ และคณิตกรณ์ จริงๆ เป็นภาษาที่สร้างสรรค์ แต่ มันไม่ได้....... ยังไงมันก็ไม่ได้ ใช้คณิตกรณ์ และเปิด แผ่นคำนวณ เอาสดมภ์ A บวก สดมภ์ B ได้ สดมภ์ C .
ตอนนี้คงนานหน่อย...........เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ 5 คน ทำอะไรกันอยู่
แต่ที่แน่ๆ เรื่องเกี่ยวกับ Search Engine และประวัติทั้ง 5 คน ที่ Wiki ไทยมีน้อยมาก
นี่เป็นอีกที่หนึ่ง........... ถ้าจะทำ Back Link หรือ โปรโมท จะทำมันที่นี่
ขออภัย บางท่านนะครับ ....... เนื้อหายังไม่มีอะไรเลย พวกไล่โปรโมทไปทั่ว.....
ปะโธ่ อยากให้ Bot มันมาเก็บ และ Index ไว้.....คิดแค่เนี่ย
มันมาล่ะครับ เพราะหน้าที่มัน มันโดนโปรแกรมมาให้ทำอยู่แล้ว แต่มาแล้ว พอมันเอากลับบ้านไป ใหคุณทึ่มดู ประทับตราไว้ ว่าต่อไปถ้าเจอ Link นี้อีกเมื่อไหร่ ให้ข้ามไป เพราะไม่มีอะไร ใส่ Bin ไว้ ถ้าเจออีก แล้วไม่ดีขึ้น Empty Recycle Bin ไปเลย (ขออภัย ถ้าแรงไปหน่อย)
คิดง่ายๆ เหมือนตอนเด็กๆ ปั้นดินน้ำมัน เออน้องหลายท่านอาจจะงง น้ำมันมีดินด้วยหรือ
สมัยผมมีแต่ดินน้ำมัน ใช้ครับ สมัยนี้ มัน แป้งโด แพง ชิ หาย เหมือนเอาหนมปังมาปั้น
ปั้นเสร็จ เรียกเพื่อนมาดู เราปั้น Spiderman สวยมั้ย..............
ปั้นอีกตัว เอาไปโชว์เพื่อน นี่ของเราเป็นเครื่องบิน .......มันเครื่องบินตรงไหนเธอ อ้อนี่ปีกใช่มั้ย..
เติมแขน เรียกเพื่อนมาดู .....นี่ Rider
เสร็จแล้ว ส่งคุณครู........ผ่าน
กลับกันอีกคน ไปขโมยของเพื่อนมา แล้วส่ง ให้เพื่อนดู มันก็เหล่แล้ว ยังกล้า ส่งให้ครูดู อือ เพราะครูไม่รู้ แต่ตัวที่สอง มันก็ส่งตัวเดิมอีก..............ตัวที่สาม-100 มันก็ส่งตัวเดิม
จะเรียกคนมาดูโชว์ หรือผลงานของตัวเอง มีอะไรให้ Show หรือยัง............
กลับมา Thai Wiki ผมลองเขียนไปบ้างแล้ว เรื่องแพงด้วย ทำถูกต้องตามกติกาเรียบร้อย
กำลังจะใส่ URL กลับมาเว็บตัวเอง………….ไม่กล้า อายหว่ะ
เว็บยังไม่ดีพอ.......ยังเป็นเว็บทำเพื่อ Adsense ถ้าไม่ใช่ จะกลับมาทำใหม่
ตอนนี้ก็ยังไมได้ทำ ............ มีเรื่องให้เขียนเข้าไปเยอะมาก เรื่องถูก เรื่องแพง มีหมด ภาษาอังกฤษ ก็ยังมีให้ทำ………
ขอเว้นช่วงนานหน่อย..... เพราะอ่านประวัติ 5 ท่านแล้ว เหมือนได้เจออาหารอร่อยๆ แล้วกลัวหมด.......
แล้วก็ ขอตรวจ Traffic หน่อย
glue ของ Yahoo ทำไมมาเยอะจัง
ํYahoo กำลังเข้าประตูหลัง Google ชัดๆ แถมมันยัง Affileate Amazon ซะด้วย(India นี้มันหัวแหลมจริงๆ)
ไม่ใช่ซิ ตอนนี้ต้องเรียกว่า ปรมาจารย์
ภาษาไทยมีสั้นมาก จนไม่อยากจะเขียน ภาษาอังกฤษมีเยอะ ขี้เกียจแปล ที่สำคัญ Google Translate แปลได้ เหมือนขาก........สเลส แปลไม่รู้เรื่อง ยิ่งมีศัพท์เทคนิคเยอะ ยิ่งไม่ได้เรื่อง
ไม่ได้ตำหนิ นะครับ ภาษาเป็นหนึ่ง ในสิ่งมหัศจรรย์ของมนุษย์ ที่คอมพิวเตอร์ เลียนแบบได้ยากที่สุด ทำได้ระดับนี้ก็ OK อยู่ และที่ไม่มีวันเลียนแบบได้ คือ ความคิดสร้างสรรค์ เพราะมันทำตามคำสั่งเท่านั้น
รู้สึกพอๆ กับ ช่วงแรกๆ 10 ปี ก่อน ให้ใช้คำว่า สดมภ์ กับ แผงแป้นอักขระ และคณิตกรณ์ จริงๆ เป็นภาษาที่สร้างสรรค์ แต่ มันไม่ได้....... ยังไงมันก็ไม่ได้ ใช้คณิตกรณ์ และเปิด แผ่นคำนวณ เอาสดมภ์ A บวก สดมภ์ B ได้ สดมภ์ C .
ตอนนี้คงนานหน่อย...........เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ 5 คน ทำอะไรกันอยู่
แต่ที่แน่ๆ เรื่องเกี่ยวกับ Search Engine และประวัติทั้ง 5 คน ที่ Wiki ไทยมีน้อยมาก
นี่เป็นอีกที่หนึ่ง........... ถ้าจะทำ Back Link หรือ โปรโมท จะทำมันที่นี่
ขออภัย บางท่านนะครับ ....... เนื้อหายังไม่มีอะไรเลย พวกไล่โปรโมทไปทั่ว.....
ปะโธ่ อยากให้ Bot มันมาเก็บ และ Index ไว้.....คิดแค่เนี่ย
มันมาล่ะครับ เพราะหน้าที่มัน มันโดนโปรแกรมมาให้ทำอยู่แล้ว แต่มาแล้ว พอมันเอากลับบ้านไป ใหคุณทึ่มดู ประทับตราไว้ ว่าต่อไปถ้าเจอ Link นี้อีกเมื่อไหร่ ให้ข้ามไป เพราะไม่มีอะไร ใส่ Bin ไว้ ถ้าเจออีก แล้วไม่ดีขึ้น Empty Recycle Bin ไปเลย (ขออภัย ถ้าแรงไปหน่อย)
คิดง่ายๆ เหมือนตอนเด็กๆ ปั้นดินน้ำมัน เออน้องหลายท่านอาจจะงง น้ำมันมีดินด้วยหรือ
สมัยผมมีแต่ดินน้ำมัน ใช้ครับ สมัยนี้ มัน แป้งโด แพง ชิ หาย เหมือนเอาหนมปังมาปั้น
ปั้นเสร็จ เรียกเพื่อนมาดู เราปั้น Spiderman สวยมั้ย..............
ปั้นอีกตัว เอาไปโชว์เพื่อน นี่ของเราเป็นเครื่องบิน .......มันเครื่องบินตรงไหนเธอ อ้อนี่ปีกใช่มั้ย..
เติมแขน เรียกเพื่อนมาดู .....นี่ Rider
เสร็จแล้ว ส่งคุณครู........ผ่าน
กลับกันอีกคน ไปขโมยของเพื่อนมา แล้วส่ง ให้เพื่อนดู มันก็เหล่แล้ว ยังกล้า ส่งให้ครูดู อือ เพราะครูไม่รู้ แต่ตัวที่สอง มันก็ส่งตัวเดิมอีก..............ตัวที่สาม-100 มันก็ส่งตัวเดิม
จะเรียกคนมาดูโชว์ หรือผลงานของตัวเอง มีอะไรให้ Show หรือยัง............
กลับมา Thai Wiki ผมลองเขียนไปบ้างแล้ว เรื่องแพงด้วย ทำถูกต้องตามกติกาเรียบร้อย
กำลังจะใส่ URL กลับมาเว็บตัวเอง………….ไม่กล้า อายหว่ะ
เว็บยังไม่ดีพอ.......ยังเป็นเว็บทำเพื่อ Adsense ถ้าไม่ใช่ จะกลับมาทำใหม่
ตอนนี้ก็ยังไมได้ทำ ............ มีเรื่องให้เขียนเข้าไปเยอะมาก เรื่องถูก เรื่องแพง มีหมด ภาษาอังกฤษ ก็ยังมีให้ทำ………
ขอเว้นช่วงนานหน่อย..... เพราะอ่านประวัติ 5 ท่านแล้ว เหมือนได้เจออาหารอร่อยๆ แล้วกลัวหมด.......
แล้วก็ ขอตรวจ Traffic หน่อย
glue ของ Yahoo ทำไมมาเยอะจัง
ํYahoo กำลังเข้าประตูหลัง Google ชัดๆ แถมมันยัง Affileate Amazon ซะด้วย(India นี้มันหัวแหลมจริงๆ)
>>>>>>>>>>
Episode 2 Chapter 2
ขออภัยพี่น้อง หายไปหลายวัน งานค่อนข้างยุ่งครับ….....
มาต่อกันเลย.......
แต่ขอออกตัวหน่อย เรื่อง Search Engine ไม่มีใครรู้ว่ามีสูตรยังไง นอกจากเจ้าตัวคนคิด ส่วนใหญ่อาศัยทดลองและจับทางเอา หลักๆ เกินครึ่ง รู้กันทั่วไป แต่ที่เหลือสูตรใครสูตรมัน ดังนั้นผิดถูก ท่านก็ต้องทดลองกันเอาเอง เข้าใจ๋......
แต่เราเสวนากันได้ ว่าฉันลองแล้วไม่ใช่ แต่แบบนี้ OK อั้วทำแบบนี้ แล้วได้แบบนี้ อย่างนี้ล่ะครับ บ้านเมืองจะพัฒนา
ข้อมูลต่างๆ ยกให้ เจ้ วิ Wiki แล้วกัน เกือบ ทั้งหมดที่พอจะเป็นวิชาการ มาจากเจ้แกหมด
กลิ่นอายสงคราม …….สงครามอะไร
เริ่มขึ้นตั้งแต่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นเลขฐานสอง 01010101010.........
คิดก่อนปี 2500(ค.ศ.1941) ไม่ต้องถามว่าเลขฐานสองคืออะไร ถ้าถามจะตอบว่า ให้เอามันมาบวกกัน
นี่ขนาดฐานสอง ยังทำได้ขนาดนี้ ถ้าฐาน 3 ฐาน 10 จะขนาดไหน..........
ไม่ไปสร้างคอนโดที่ดาวพลูโต หรือแปลงร่างเป็นไอ้มดแดง อุลตร้าแมนกันหมดแล้วรึ
ญี่ปุ่นนี่ สัตว์ประหลาดเยอะ ออกมาที พังบ้านพังเมือง ยังสงสัยว่ามันอยู่กันได้ไง......
อเมริกาเหนือ เป็นแหล่งกำเนิด ทุ่มเททุกอย่างที่เกี่ยวกับเลขฐานสอง พัฒนาเสริมเติมแต่งคอมพิวเตอร์ให้ก้าวกระโดด ไม่ใช่สิ เขย่งก้าวกระโดดเลย โลกกำลังถูกเปลี่ยนแปลง..........
America will change the world…..
ผิดกับพวกล่าอาณานิคม ที่กำลังสิ้นฤทธิ์ ยุคอุตสาหกรรมมีแต่สร้างความเสื่อมโทรม ให้กับตัวเอง ดังนั้นไปสร้างมันให้ไกลๆ บ้านตัวเองเป็นพอ
Change We can believe in
Change คือ คำที่ทำให้คนได้เป็นประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจ แต่บางคนว่าได้เพราะ ทำ Blog YouTube และ Facebook แต่ผมว่า Internet Marketing มีส่วน......
บัด Now................ อเมริกาไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งที่ดีกว่า แต่กถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องเปลี่ยน เพื่อให้อยู่รอด....
ต่างกันราวฟ้ากับเหว..................
Change เพื่อรับมือกับอนาคต หรือสิ่งที่ดีกว่า
กับ Change เพราะสถานการณ์มันบังคับ ถ้าไม่เปลี่ยน ก็อยู่ไม่ได้
อำนาจที่อเมริกาครอบครองอยู่กว่า 50 ปี หลังจากเขี่ย อังกฤษ รัสเซียตกไป กำลังจะเปลี่ยนมือ เปลี่ยนไปไหนไม่รู้ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น หรือ ไทย........
แต่สาเหตุที่อเมริกามีปัญหา และยังไม่ยอมรับ เกิดจากความโลภ เห็นแก่ตัว ทำเพื่อเงินอย่างเดียว..........เล่นประเทศอื่นไม่พอ ยังเล่นพวกเดียวกัน คุณธรรมถูกละเลย บี้ชาวบ้านให้โปร่งใส แต่ตัวเองโซ้ยตาใส ซ้ำร้ายเอาข้อมูลเค้ามาหากินต่ออีก ติดตามข่าวต่างประเทศ วงการเงินการธนาคารเละเทะมาก บริษัทจัดอันดับก็พอกัน..เชื่อถือไม่ได้
จะหากินกับไอ้กัน แนะนำให้นอนหลังละครจบ ตื่นตี ห้า ติดชึ่ง สูดอากาศบริสุทธิไปด้วย ดูพิธีกรสาวสวย อ่านข่าวต่างประเทศช่อง 3 และเช็คข่าวเว็บต่างประเทศ ที่โน้น ว่ามันทำอะไรกัน จะพอดู Trend ได้บ้าง แรกๆ อาจจะอ่านไม่รู้เรื่อง หัดใช้ Google Translate ช่วย เดี๋ยวได้เอง.....เชื่อหัวไอ้ตง.....
ใครจะเล่น KW เทพ น้องๆ Hosting เตรียมตัวได้เลยนะครับ ช่วยกันเอาเงินเข้าประเทศ ผมกล้าฟันธงเลย ว่า Mortgage Loan จะ Search หนาแน่นพอๆ มือถือออกใหม่
มือใหม่อย่างเรา ต่อด้วย Modify, Modification , Stop Foreclose, Quick Cash, Stimulus Package Mortgage คิดอะไร ได้ เห็นที่ไหนต่อไปเลยครับ เอาชื่อ Obama Clinton หรือ รมต มา่ต่อได้เลย
แปลเป็นไทยก็ประมาณปี 40-41 บ้านเราครับ แก้หนี้ ลดหนี้ ยกหนี้........เงินด่วน
นี่เป็นอีกเรื่องที่ผมทำดัก เริ่มมาบ้าง แต่ไม่โดนเต็มๆ ปริมาณค้นต่อวันไม่มากแต่หน้าผลการค้นหาเยอะจริงๆ คู่แข่งเยอะ และไม่ใช่ใครที่ไหน CNN Bloomberg Wall Street Journal แต่ไม่ต้องกลัว คนเหมือนกัน แล้วก็ Google ไมได้ให้ PR สูงทุกหน้า..........
เอา Content ไอเดีย แล้วก็ความแปลกใหม่ไปสู้.......
ส่วนค่าคลิก ไม่ขอพูดถึงนะครับ........คลิกเดียวยิ้ม
มีต่อ...........อย่าเพิ่งเม้นท์ ครับ
Post Merge: March 25, 2009, 09:40:11 PM
จากคอมพิวเตอร์ การพัฒนาไม่หยุดยั้ง เรื่อยมาเป็นเครือข่ายใยแมงมุม.......World Wide Web อินเตอร์เน็ต ไม่น่าเชี่อ 20 ปีนี่เองที่ Internet เกิดขึ้น และ Browser ตัวแรกชื่อ Netscape เกิดขึ้นเมื่อปี 96 นับๆ ดูไม่ถึง 15 ปีดี วิวัฒนาการ 01 ไวมาก
และแล้ว โลกก็ถูกเปลี่ยนด้วยคอมพิวเตอร์ ด้วยความคิดสร้างสรรค์
สำหรับสารขันธ์ คอมพิวเตอร์มาแทนที่เครื่องพิมพ์ดีด แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็ไม่น่าจะเกิน 10 ปี ทุกวันนี้คอม ก็ยังมีไว้สำหรับพิมพ์งานเกินครึ่ง
แต่ตอนซื้อ เลือก ชิ หาย........ไม่รู้จะซื้อมาทำอะไร CPU Dual Core ไม่พอ ต้อง Core 2 Duo ยังไม่พอครับ มันล่อ Quad ซะเลย การ์ดจอต้องระดับเทพ ตัวเหยียบหมื่น เอามาพิมพ์งาน อย่าไปว่ามันเลยครับ ผมยังซื้อมาเล่น Internet เกือบ 90% แต่เลือก Specs เลือกแล้วเลือกอีก เลือกเสร็จซื้อตัว 3 หมื่น แต่ใช้เท่ากับตัวหมื่นต้นๆ
ยุคนั้น คนเห็นประโยชน์จากคอมพิวเตอร์มหาศาล เกิดการพัฒนาต่อยอดมากมาย
และก็มีทฤษฎี โลกแบ่งเป็น 3 ยุค ยุคเกษตรกรรม ยุคอุตสาหกรรม และยุคข้อมูลข่าวสาร ตอนนั้น เป็นแค่ใครมีข้อมูลเยอะกว่าได้เปรียบ
แรกๆ ใครมีข้อมูลมากกว่าได้เปรียบ แต่ Internet เปลี่ยนมันให้เป็นไม่ใช่แค่มากกว่า แต่ใครจะใช้ข้อมูลที่มีมหาศาลได้ดีกว่า จัดเก็บได้ดีกว่า เลือกใช้ได้ดีกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า กล้าตัดสินใจมากกว่า
และแล้ว โลกก็เข้าสู่สงคราม แต่มันเป็นสงครามข้อมูลข่าวสาร
สงครามสารสนเทศ
Search Engine เป็นเพียงเครื่องมือและอาวุธ
อลัน เอ็มเทจ (Alan Emtage ) เป็นคนในยุคพัฒนาต่อยอดเครื่องสมองกล เข้าเรียนปี 83 ที่มหาลัยในแคนาดาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เป็นมนุษย์คนแรกที่คิดค้นโปรแกรมค้นหาข้อมูลในเครื่องหรือเครือข่าย เป็นโมเดลต้นแบบ เป็นประกายไอเดีย ของปัจจุบัน
จริงๆ ผมก็แปลไม่ชัดเจนยังไง แต่ พี่ท่าน พัฒนาโปรแกรมชื่อ Archie ที่มาจาก Archive ปี 90 เพื่อเก็บและค้นหาข้อมูลจากชื่อไฟล์ ใน FTP….. อธิบายง่ายๆ ตามที่เข้าใจก็ Search แบบพื้นฐานใน Window เพื่อหาชื่อไฟล์ ในเครื่องหรือ Network
ตอนนี้พี่ท่านก็อายุประมาณ 45 ปี บรรยายให้ความรู้เรื่องอินเตอร์เน็ตไปทั่วโลก และทำงานบริษัท Web Engineering ใน Mediapolis
ในเวลาใกล้เคียงกันปี 91 เกิด Veronica and Jughead เป็นโปรแกรมสำหรับค้นหาชื่อไฟล์ และเก็บเข้า Server ชื่อ Gopher โดย Mark McCahill มหาวิทยาลัย Minnesota การทำงานคล้ายๆ กับ Archie
และปี 93 Matthew Gray ที่ MIT คิดค้น Wandex รวบรวมข้อมูล WWW เพื่อวัดขนาดของเครือข่าย และ ปี 95 เกิด Aliweb เป็น Searh Engine เพื่อเก็บไฟล์ของเว็บ
ปี 93 เกิด web robot ตัวแรกแรกชื่อ JumpStation เพื่อรวบรวมและเก็บข้อมูล เพื่อให้ค้นหาโดยใช้ webrobot ในการหาหน้าเว็บ แต่การค้นหาถูกจำกัดแค่ ชื่อเพจ และ heading
ปี 94 ได้เกิด WebCrawler เพื่อใช้ค้นหาแบบ Full Text โดยให้ User ค้นหาด้วยคำอะไรก็ได้ และเกิด Lycos ที่ Carnegie Mellon University ถึง ตรงนี้เป็น Search Engine ที่สมบูรณ์แล้ว
แล้วก็เกิด search engines อีกมากมาย Magellan, Excite, Infoseek, Inktomi, Northern Light, and AltaVista.
ช่วงหลังๆ ต่างคนต่างทำ และแข่งกัน เพราะเริ่มเห็นประโยชน์ในการรวบรวมข้อมูลจากเว็บทุกเว็บมาเก็บ เป็นธุรกิจที่เก็บความลับกันสุดๆ ช่วงก่อนปี 2000 เป็นช่วง Internet Boom ธุรกิจ Dot Com เติบโตแบบก้าวกระโดด เว็บท่า (Portal) ได้รับความนิยมสูงสุด ทุกบริษัทจดเว็บไซค์ของตัวเอง ฟ้องร้องชื่อเว็บกันอุตลุด
ด้วยความเป็นโลกเสมือน ปั่นธุรกิจดอทคอมเกินจริง มูลค่าที่แท้จริงไม่ได้มีค่าเท่ากับที่ปั่นเกิด Dot Com Bubble ก็เจ๊งกันเยอะ โตสุดปี 1999 ดับปี 2001 เรียกว่า 3 ปีไป ที่เหลือรอดมาดังๆ หน่อยก็เป็น Yahoo และ Amazon
แล้ว Google มาแทรกมาได้ไง ตัวผมก็ยังงงๆ อยู่ครับ การแข่งขันที่สูงมาก เงินทุนมหาศาลอยู่ในดอทคอม คู่แข่งหน้าใหม่ไม่น่าจะเกิดได้ง่ายๆ แต่ก็เกิดได้...........
มี 5 คน ไปแล้ว 3 เหลืออีก 2 ไม่ต้องเดา
มาต่อ พรุ่งนี้ครับ
ขออภัยพี่น้อง หายไปหลายวัน งานค่อนข้างยุ่งครับ….....
มาต่อกันเลย.......
แต่ขอออกตัวหน่อย เรื่อง Search Engine ไม่มีใครรู้ว่ามีสูตรยังไง นอกจากเจ้าตัวคนคิด ส่วนใหญ่อาศัยทดลองและจับทางเอา หลักๆ เกินครึ่ง รู้กันทั่วไป แต่ที่เหลือสูตรใครสูตรมัน ดังนั้นผิดถูก ท่านก็ต้องทดลองกันเอาเอง เข้าใจ๋......
แต่เราเสวนากันได้ ว่าฉันลองแล้วไม่ใช่ แต่แบบนี้ OK อั้วทำแบบนี้ แล้วได้แบบนี้ อย่างนี้ล่ะครับ บ้านเมืองจะพัฒนา
ข้อมูลต่างๆ ยกให้ เจ้ วิ Wiki แล้วกัน เกือบ ทั้งหมดที่พอจะเป็นวิชาการ มาจากเจ้แกหมด
กลิ่นอายสงคราม …….สงครามอะไร
เริ่มขึ้นตั้งแต่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นเลขฐานสอง 01010101010.........
คิดก่อนปี 2500(ค.ศ.1941) ไม่ต้องถามว่าเลขฐานสองคืออะไร ถ้าถามจะตอบว่า ให้เอามันมาบวกกัน
นี่ขนาดฐานสอง ยังทำได้ขนาดนี้ ถ้าฐาน 3 ฐาน 10 จะขนาดไหน..........
ไม่ไปสร้างคอนโดที่ดาวพลูโต หรือแปลงร่างเป็นไอ้มดแดง อุลตร้าแมนกันหมดแล้วรึ
ญี่ปุ่นนี่ สัตว์ประหลาดเยอะ ออกมาที พังบ้านพังเมือง ยังสงสัยว่ามันอยู่กันได้ไง......
อเมริกาเหนือ เป็นแหล่งกำเนิด ทุ่มเททุกอย่างที่เกี่ยวกับเลขฐานสอง พัฒนาเสริมเติมแต่งคอมพิวเตอร์ให้ก้าวกระโดด ไม่ใช่สิ เขย่งก้าวกระโดดเลย โลกกำลังถูกเปลี่ยนแปลง..........
America will change the world…..
ผิดกับพวกล่าอาณานิคม ที่กำลังสิ้นฤทธิ์ ยุคอุตสาหกรรมมีแต่สร้างความเสื่อมโทรม ให้กับตัวเอง ดังนั้นไปสร้างมันให้ไกลๆ บ้านตัวเองเป็นพอ
Change We can believe in
Change คือ คำที่ทำให้คนได้เป็นประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจ แต่บางคนว่าได้เพราะ ทำ Blog YouTube และ Facebook แต่ผมว่า Internet Marketing มีส่วน......
บัด Now................ อเมริกาไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งที่ดีกว่า แต่กถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องเปลี่ยน เพื่อให้อยู่รอด....
ต่างกันราวฟ้ากับเหว..................
Change เพื่อรับมือกับอนาคต หรือสิ่งที่ดีกว่า
กับ Change เพราะสถานการณ์มันบังคับ ถ้าไม่เปลี่ยน ก็อยู่ไม่ได้
อำนาจที่อเมริกาครอบครองอยู่กว่า 50 ปี หลังจากเขี่ย อังกฤษ รัสเซียตกไป กำลังจะเปลี่ยนมือ เปลี่ยนไปไหนไม่รู้ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น หรือ ไทย........
แต่สาเหตุที่อเมริกามีปัญหา และยังไม่ยอมรับ เกิดจากความโลภ เห็นแก่ตัว ทำเพื่อเงินอย่างเดียว..........เล่นประเทศอื่นไม่พอ ยังเล่นพวกเดียวกัน คุณธรรมถูกละเลย บี้ชาวบ้านให้โปร่งใส แต่ตัวเองโซ้ยตาใส ซ้ำร้ายเอาข้อมูลเค้ามาหากินต่ออีก ติดตามข่าวต่างประเทศ วงการเงินการธนาคารเละเทะมาก บริษัทจัดอันดับก็พอกัน..เชื่อถือไม่ได้
จะหากินกับไอ้กัน แนะนำให้นอนหลังละครจบ ตื่นตี ห้า ติดชึ่ง สูดอากาศบริสุทธิไปด้วย ดูพิธีกรสาวสวย อ่านข่าวต่างประเทศช่อง 3 และเช็คข่าวเว็บต่างประเทศ ที่โน้น ว่ามันทำอะไรกัน จะพอดู Trend ได้บ้าง แรกๆ อาจจะอ่านไม่รู้เรื่อง หัดใช้ Google Translate ช่วย เดี๋ยวได้เอง.....เชื่อหัวไอ้ตง.....
ใครจะเล่น KW เทพ น้องๆ Hosting เตรียมตัวได้เลยนะครับ ช่วยกันเอาเงินเข้าประเทศ ผมกล้าฟันธงเลย ว่า Mortgage Loan จะ Search หนาแน่นพอๆ มือถือออกใหม่
มือใหม่อย่างเรา ต่อด้วย Modify, Modification , Stop Foreclose, Quick Cash, Stimulus Package Mortgage คิดอะไร ได้ เห็นที่ไหนต่อไปเลยครับ เอาชื่อ Obama Clinton หรือ รมต มา่ต่อได้เลย
แปลเป็นไทยก็ประมาณปี 40-41 บ้านเราครับ แก้หนี้ ลดหนี้ ยกหนี้........เงินด่วน
นี่เป็นอีกเรื่องที่ผมทำดัก เริ่มมาบ้าง แต่ไม่โดนเต็มๆ ปริมาณค้นต่อวันไม่มากแต่หน้าผลการค้นหาเยอะจริงๆ คู่แข่งเยอะ และไม่ใช่ใครที่ไหน CNN Bloomberg Wall Street Journal แต่ไม่ต้องกลัว คนเหมือนกัน แล้วก็ Google ไมได้ให้ PR สูงทุกหน้า..........
เอา Content ไอเดีย แล้วก็ความแปลกใหม่ไปสู้.......
ส่วนค่าคลิก ไม่ขอพูดถึงนะครับ........คลิกเดียวยิ้ม
มีต่อ...........อย่าเพิ่งเม้นท์ ครับ
Post Merge: March 25, 2009, 09:40:11 PM
จากคอมพิวเตอร์ การพัฒนาไม่หยุดยั้ง เรื่อยมาเป็นเครือข่ายใยแมงมุม.......World Wide Web อินเตอร์เน็ต ไม่น่าเชี่อ 20 ปีนี่เองที่ Internet เกิดขึ้น และ Browser ตัวแรกชื่อ Netscape เกิดขึ้นเมื่อปี 96 นับๆ ดูไม่ถึง 15 ปีดี วิวัฒนาการ 01 ไวมาก
และแล้ว โลกก็ถูกเปลี่ยนด้วยคอมพิวเตอร์ ด้วยความคิดสร้างสรรค์
สำหรับสารขันธ์ คอมพิวเตอร์มาแทนที่เครื่องพิมพ์ดีด แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็ไม่น่าจะเกิน 10 ปี ทุกวันนี้คอม ก็ยังมีไว้สำหรับพิมพ์งานเกินครึ่ง
แต่ตอนซื้อ เลือก ชิ หาย........ไม่รู้จะซื้อมาทำอะไร CPU Dual Core ไม่พอ ต้อง Core 2 Duo ยังไม่พอครับ มันล่อ Quad ซะเลย การ์ดจอต้องระดับเทพ ตัวเหยียบหมื่น เอามาพิมพ์งาน อย่าไปว่ามันเลยครับ ผมยังซื้อมาเล่น Internet เกือบ 90% แต่เลือก Specs เลือกแล้วเลือกอีก เลือกเสร็จซื้อตัว 3 หมื่น แต่ใช้เท่ากับตัวหมื่นต้นๆ
ยุคนั้น คนเห็นประโยชน์จากคอมพิวเตอร์มหาศาล เกิดการพัฒนาต่อยอดมากมาย
และก็มีทฤษฎี โลกแบ่งเป็น 3 ยุค ยุคเกษตรกรรม ยุคอุตสาหกรรม และยุคข้อมูลข่าวสาร ตอนนั้น เป็นแค่ใครมีข้อมูลเยอะกว่าได้เปรียบ
แรกๆ ใครมีข้อมูลมากกว่าได้เปรียบ แต่ Internet เปลี่ยนมันให้เป็นไม่ใช่แค่มากกว่า แต่ใครจะใช้ข้อมูลที่มีมหาศาลได้ดีกว่า จัดเก็บได้ดีกว่า เลือกใช้ได้ดีกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า กล้าตัดสินใจมากกว่า
และแล้ว โลกก็เข้าสู่สงคราม แต่มันเป็นสงครามข้อมูลข่าวสาร
สงครามสารสนเทศ
Search Engine เป็นเพียงเครื่องมือและอาวุธ
อลัน เอ็มเทจ (Alan Emtage ) เป็นคนในยุคพัฒนาต่อยอดเครื่องสมองกล เข้าเรียนปี 83 ที่มหาลัยในแคนาดาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เป็นมนุษย์คนแรกที่คิดค้นโปรแกรมค้นหาข้อมูลในเครื่องหรือเครือข่าย เป็นโมเดลต้นแบบ เป็นประกายไอเดีย ของปัจจุบัน
จริงๆ ผมก็แปลไม่ชัดเจนยังไง แต่ พี่ท่าน พัฒนาโปรแกรมชื่อ Archie ที่มาจาก Archive ปี 90 เพื่อเก็บและค้นหาข้อมูลจากชื่อไฟล์ ใน FTP….. อธิบายง่ายๆ ตามที่เข้าใจก็ Search แบบพื้นฐานใน Window เพื่อหาชื่อไฟล์ ในเครื่องหรือ Network
ตอนนี้พี่ท่านก็อายุประมาณ 45 ปี บรรยายให้ความรู้เรื่องอินเตอร์เน็ตไปทั่วโลก และทำงานบริษัท Web Engineering ใน Mediapolis
ในเวลาใกล้เคียงกันปี 91 เกิด Veronica and Jughead เป็นโปรแกรมสำหรับค้นหาชื่อไฟล์ และเก็บเข้า Server ชื่อ Gopher โดย Mark McCahill มหาวิทยาลัย Minnesota การทำงานคล้ายๆ กับ Archie
และปี 93 Matthew Gray ที่ MIT คิดค้น Wandex รวบรวมข้อมูล WWW เพื่อวัดขนาดของเครือข่าย และ ปี 95 เกิด Aliweb เป็น Searh Engine เพื่อเก็บไฟล์ของเว็บ
ปี 93 เกิด web robot ตัวแรกแรกชื่อ JumpStation เพื่อรวบรวมและเก็บข้อมูล เพื่อให้ค้นหาโดยใช้ webrobot ในการหาหน้าเว็บ แต่การค้นหาถูกจำกัดแค่ ชื่อเพจ และ heading
ปี 94 ได้เกิด WebCrawler เพื่อใช้ค้นหาแบบ Full Text โดยให้ User ค้นหาด้วยคำอะไรก็ได้ และเกิด Lycos ที่ Carnegie Mellon University ถึง ตรงนี้เป็น Search Engine ที่สมบูรณ์แล้ว
แล้วก็เกิด search engines อีกมากมาย Magellan, Excite, Infoseek, Inktomi, Northern Light, and AltaVista.
ช่วงหลังๆ ต่างคนต่างทำ และแข่งกัน เพราะเริ่มเห็นประโยชน์ในการรวบรวมข้อมูลจากเว็บทุกเว็บมาเก็บ เป็นธุรกิจที่เก็บความลับกันสุดๆ ช่วงก่อนปี 2000 เป็นช่วง Internet Boom ธุรกิจ Dot Com เติบโตแบบก้าวกระโดด เว็บท่า (Portal) ได้รับความนิยมสูงสุด ทุกบริษัทจดเว็บไซค์ของตัวเอง ฟ้องร้องชื่อเว็บกันอุตลุด
ด้วยความเป็นโลกเสมือน ปั่นธุรกิจดอทคอมเกินจริง มูลค่าที่แท้จริงไม่ได้มีค่าเท่ากับที่ปั่นเกิด Dot Com Bubble ก็เจ๊งกันเยอะ โตสุดปี 1999 ดับปี 2001 เรียกว่า 3 ปีไป ที่เหลือรอดมาดังๆ หน่อยก็เป็น Yahoo และ Amazon
แล้ว Google มาแทรกมาได้ไง ตัวผมก็ยังงงๆ อยู่ครับ การแข่งขันที่สูงมาก เงินทุนมหาศาลอยู่ในดอทคอม คู่แข่งหน้าใหม่ไม่น่าจะเกิดได้ง่ายๆ แต่ก็เกิดได้...........
มี 5 คน ไปแล้ว 3 เหลืออีก 2 ไม่ต้องเดา
มาต่อ พรุ่งนี้ครับ
>>>>>>>>>>>>>>
ลายเซ็นพี่ท่าน เยี่ยมครับ เป็นเรื่องที่ผมอยากทำ แต่จนใจ ไม่สามารถ จริงๆ เครื่องสำอาง แฟชั่น พวกนี้ขายดี แต่ไม่รู้เรื่อง...............เลือก KW ดีๆ เอาดาราเกาหลีมาหยอด ใส่ไปดังๆ ตอนนี้ ผมรู้จักอย่ 2 คน คนแรก
ชื่อ วอนนอนคุก อีกคนชื่อ เตียงยังซุด
Post Merge: March 26, 2009, 09:26:03 PM
ต่่อจากเมื่อวาน อีก 2 คนที่เหลือ ไม่ใช่ใครที่ไหน
ก็พี่ท่านที่ก่อตั้ง Google
คงไม่ต้องไปพูดถึง Googel มาจากคำว่าอะไร เอาเป็นว่าตอนนี้ Google เป็นอันดับ 1 เรื่อง Search Engine มีข้อมูลว่าในหนึ่งวัน มีคนค้นหลายร้อยล้านครั้ง และคนที่เหลืออีก 2 คน จาก 5 ที่พูดไว้ เป็นใครไม่ได้นอกจาก Larry Page และ Sergey Brin พัฒนาปี 97 เปิดตัวปี 98 มาดังตอนปี 2000 ช่วง Dot Com Bubble
คนแรก Larry Page เกิดเมื่อ............ ขอข้ามไปก่อน กลัวมีคนช้ำใจหลายคน จบวิทย์คอม พ่อเป็นดอกเตอร์ด้านวิทย์คอม เกี่ยวกับ AI (Artificial intelligence) แม่มีเชื่อสายยิว มาอีกแล้วยิว คนดังประวัติศาสตร์โลกมีเชื้อยิวเยอะมาก เมื่อก่อนสงสัยมากทำไมชาวยิวมีคนเก่งเยอะ รวยๆ ทั้งนั้น และที่สำคัญประวัติศาสตร์โลกมักจะมีเชื้อสายยิวมาเกี่ยวเสมอ
แต่หายสงสัยไปนานแล้วครับ ว่าทำไม เพราะคนต้นคิดคำนวณดอกเบี้ยเป็นชาวยิว ระบบธนาคารก็มาจากชาวยิว เค้าว่าคิดมาได้เป็นพันปีแล้ว ใครอยากรู้เรื่องชาวยิว ลองหาหนังสือของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ดู
Page จบตรีวิศวะคอม และโทวิทย์คอม ตอนเรียนโทที่ Michigan เจ็ Wiki บอกว่าพี่แก ผลิต Inkjet Printer จาก Lego Bricks งง มันเอา Lego มาทำ Printer ได้ไง
คนที่สอง Sergey Brin อายุเท่ากับ Page เป็นชาวรัสเซียอพยพ ตามพ่อมาอยู่อเมริกาตั้งแต่ 6 ขวบ เรียนสายวิทย์คอมเหมือนกัน
แหม่.......นึกแล้วเสียดาย ไม่เลือกเอ็นวิทย์คอม มันมีความหลังครับ แค้นอาจารย์ ตั้งแต่มันมาที่โรงเรียนครั้งแรก เลยไม่เลือกเรียน
ทั้งสองคนมาเจอกันตอนเรียนดอกเตอร์ ด้านวิทย์คอมที่ Stanford กลายเป็นเพื่อนซี้ ตูรักมึง....... ขออภัย ประมาณว่าถูกคอกันสุดๆ เป็นเพื่อนร่วมห้องนอนกัน ตอนเรียนใช้คอมถูกๆ ทำ Data Mining แปลเป็นไทย เหมืองข้อมูล อันนี้เป็นสาย MIS รวบรวมข้อมูล จัดเก็บข้อมูล เพื่อเรียกมาใช้ ถ้าข้อมูลเยอะมากๆ ไม่หมูที่จะเรียกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมการวิเคราะห์ข้อมูลยังไม่ง่าย ทั้งสองทำ Search Engine ให้ใช้ในมหาลัย จากการแปลประมาณว่าทำเสร็จแล้ว
อยู่ๆ ก็พักการเรียนไปเช่าโรงรถตั้ง Google กัน พี่ท่านคงเห็นช่องอะไรบางอย่าง..............และอ่านอนาคต เทียบกับขาเก่าแล้ว ดังแน่......... ไปเว้ย เพจ ไปรวยกัน
ทั้งสอง ถูกจัดให้เป็นบุคคลสำคัญอันดับหนึ่งของ Web รวยมหาศาล.......
ทำไม Google เข้ามาแทรกและดังได้ นี่ยังเป็นปัญหา……
แต่ถ้าจะเอาความเห็นส่วนตัวผสมกับหลายอย่างที่อ่านมา พอสรุปว่า ช่วงนั้นเป็นช่วง Dot Com บูมสุดๆ จำได้ช่วงนั้นเว็บรกมาก รกยังไง ไปดู Yahoo กับ Sanook เว็บที่ดังๆ เป็นเว็บท่า โฆษณาเต็มไปหมด รำคาญลูกตามาก คนยังไม่นิยมใช้ Search Engine มาก เพราะยังไม่ค่อยตรง หรือเร็ว เท่าไหร่
Google เข้ามาแทรกด้วยความแตกต่าง หน้าขาวจ๊วด ถ้าให้เดา ทั้ง Brin และ Page เมียผิวขาวชัวร์....ไม่มีโฆษณา ให้เห็นเลย แถม เปิดปุ้ป โหลดปั๊ป อันนี้สำคัญนะครับ สมัยนั้น เล่นผ่าน Modem 56K นะครับ ไม่ใช่ ADSL
อีกส่วนที่แน่ๆ คือ ผลการค้นหา เนื่องจากไม่มีเชิงธุรกิจมาเกี่ยวข้อง ผลการค้นจึงเป็นไปตามสูตรที่คิดไว้ และที่ควรจะเป็น ประมาณว่า ค้นแล้วเจอ ค้นแล้วใช่ และแน่ๆ คือ เร็วที่สุดในโลก........
ไม่พอยังท้าคนค้นด้วยปุ่ม ค้นแล้วเข้าเว็บเลย.......นายแน่มาก…มีผลด้านจิตวิทยา ถามว่าเคยใช้มั้ย ปีนึงนับครั้งได้...
คนเลยเริ่มนิยม ผมอ่านแบบไม่ละเอียดมากนัก Algorithm ของ Google ส่วนผสมที่สำคัญคือ PageRank และปัจจัยอื่น รวมๆ กันได้ประมาณ 200 พื้นฐานสำคัญของ PageRank มีพื้นฐานว่า จะวิเคราะห์ลิงค์ที่ส่งมาหน้านี้ ว่าดีหรือไม่ดีและให้แต้มเท่าไหร่ ตัวนี้เป็นตัวแตกต่างจากยี่ห้ออื่น และที่สำคัญเป็นการพยายามเลียนแบบวิธีคิดของมนุษย์ ตอนแรกนับปริมาณลิงค์และให้แต้มเฉยๆ หลังๆ พวกรู้ทัน ทำเว็บปั่นมาชน หลังๆ เลยมีเชิงวิเคราะห์เข้าไป แล้วก็เพิ่มโน้นเพิ่มนี่ไปอีก
ถ้าจะอธิบายแบบที่เคยพูดไป ว่า AI เป็นการเลียนแบบมนุษย์ ใครที่คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เลียนแบบมนุษย์ได้ถือว่าสุดยอด เช่น ทำหุ่นยนต์เลียนแบบมือ ตอนนี้ทำได้แบบ 100% หรือยัง........ ต้องถือว่ายัง นิ้วเรา มือเรา การสั่งงานถ้าทำโปรแกรม มันจะซับซ้อนมาก ถึงมาก ถึงมาก พอๆ มากที่สุดครับ……
มีต่อ ทนอีกหน่อยใกล้จบแล้ว........
ผมล่ะเชื่อ มีคนตามอ่านได้ขนาดนี้...........
Post Merge: March 26, 2009, 09:45:48 PM
โปรแกรมวิเคราะห์ของ Google หรือ Algorithm มีพื้นฐานเลียนแบบความคิดของมนุษย์ ก็ถือว่าพัฒนาได้สุดยอด แต่ถามว่าเหมือนมนุษย์หรือยัง ต้องเรียกว่า พอๆ กับทำหุ่นยนต์ล่ะครับ ไม่ 100% ถ้าเทียบความคิดหรือสติปัญญามนุษย์จะอยู่ระดับ ทึ่มๆ ไม่บอกไม่ทำ ไม่สั่งไม่ไป ขยันแต่โง่ แต่ส่วนดีแน่ๆ คือมันแม่น ประมาณนี้ แต่ถ้าเทียบพวกสิ่งประดิษฐ์เลียนแบบด้วยกัน ต้องถือว่าสุดยอด ยกให้คนคิด และที่คนคิดมันฉลาดกว่านั้น คือ มันเอาคุณทึ่ม หลายตัวๆ มารวมกัน ทำงานประสานกัน จนเรารู้สึกว่ามันยอดมาก.......
ถ้าจะยกตัวอย่าง เรื่อง PageRank หรืออธิบายง่ายๆ ก็ประมาณว่า ถ้าเราอยากรู้ว่า คนไหนเก่งและให้คำแนะนำเรื่อง การใช้ Excel ในที่ทำงาน เราก็จะถามเพื่อน คนแรกบอกให้ถามสมชาย แต่ดูหน้าตาแล้วไม่น่าจะใช่ หน้าไม่ขึ้นสูตร ไม่แน่ใจลองถามผู้เชี่ยวชาญฝ่าย IT ก็แนะนำไปถามสมชาย ถามคนข้างๆ อีก 2-3 คน ส่วนใหญ่ Refer ให้ไปถามสมชาย คนเก่งคอมอยู่แล้วยัง Refer สมชาย ชัดเลยถ้าเรื่อง Excel ไปหาสมชาย
กลับมาพวก Search Engine คำที่ค้น คำนี้ มีหลายเว็บมากที่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นับจำนวน KW ดูตำแหน่งอย่างเดียว ก็เหมือนกับ Search ตัวอื่น จะวัดยังไงดี.........ก็คิดให้เหมือนคนถ้ามีคน Refer เยอะก็ให้อันดับดีกว่าคน Refer น้อย Refer ทางโปรแกรมไม่รู้จะใช้อะไรวัด จะวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปว่าเขียนดีไม่ดี ก็กระไรตูไม่ใช่มนุษย์ ถ้าแน่จริงสั่งมาว่าดีของมนุษย์วัดยังไง........
มีอยู่ตัวเดียวคือ Link ก็ใช้ Link ที่ชี้มาแทน ถ้าเว็บที่ชี้มาไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกันเลย ประมาณถามไปว่า ประเทศไทยมีกี่จังหวัด มันตอบ ผีแพ้หงส์ ตัดทิ้งไป ถ้าหน้าเว็บที่ Link มามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ให้แต้มไป และที่สำคัญหน้าที่ Link มาเป็นหน้าที่ทั้งเกี่ยวข้องและเป็นที่ยอมรับนับถืออยู่แล้ว ก็ให้แต้มมากหน่อย ประมาณว่า PR สูงชี้มา PR ต่ำกว่า ว่างั้น ใครมีแต้มสูงกว่า อันดับดีกว่า......นั่นล่ะครับคล้ายมนุษย์ คนเลยถูกใจ
และยังมีอีกหลายตัวที่มันเลียนแบบคนก็ใกล้ๆ ปากไงครับ ความสามารถทางภาษา อันนี้ยิ่งยากเข้าไปอีก
เอาอีกหน่อย เช่น เวลาคนจะทำรายงานส่งอาจารย์ซักเรื่อง ในเล่มต้องมีอะไรบ้าง ชื่อรายงาน คำนำ สารบัญ ชื่อบทที่ 1 บทที่ 2 ชื่อข้อย่อย ต่างๆ ใช่มั้ย ใครๆ ก็ทำ ลองคิดดูถ้าคุณจะหาหนังสือเกี่ยวกับการทำส้มตำ มีหนังสือที่สอนตำส้มตำอยู่เล่มเดียว ข้างในชัด บอกตั้งแต่การสอยมะละกอ......ตวงปลาร้า แต่มันตั้งชื่อหนังสือว่า ทำไมเครื่องบินถึงบินได้ คุณจะหยิบเล่มนั้นมาดูมั้ย......... นั่นล่ะเหมือนทำเว็บเลย.........
ไอ้ส่วนนี้ตามตำราเสียวท่านว่าทำ On Page ส่วนเรื่อง PR ท่านว่าเป็นเรื่อง Off Page
On Page ก็คือทำเว็บเราเอง ทำให้ถูกหลัก SEO ถูกยังไง เหมือนทำหนังสือ มีชื่อเว็บ ชื่อเรื่อง ชื่อตอน ย่อหน้า ชื่อรูปอธิบาย อ่านง่าย แยกแยะ แบ่งเรื่องได้ดี เขียนเรื่องอะไรก็มี KW เรื่องนั้นในจุดที่ควรจะมี ทำโครงสร้างให้ Bot มันเก็บได้ง่าย มีแค่นี้ครับ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ โครงสร้าง Blog ทุกยี่ห้อ ดีอยู่แล้ว
Off Page ตำราเสียวท่านว่า เป็นการ Promote Backlink PR ประมาณนั้น บางที่ คิดอย่างเดียว มีลิงค์กลับมาเยอะๆ ดี พวก...โปรโมทแหลก มันก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ขึ้นกับปริมาณอย่างเดียว.......
มันก็เอามาผสมผสานกันหลายตัว คิดเป็นสูตรเป็นโปรแกรม และก็จัดอันดับการค้นหา เตรียมเสริฟก่อน พอมีคำนี้ค้นมา เสริฟได้ทันที
การทำงานของ Search Engine ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ
อันแรก มันก็สร้างโปรแกรมไปเก็บหน้าเว็บมา ภาษาอังกฤษเรียก Web Crawling คำว่า Crawl แปลว่าคลานหรือเลื้อย ส่วนโปรแกรมันก็ตั้งไปว่า Bot Spider ไม่ได้มีไสยศาสตร์ หรือมนต์ดำอะไรครับพี่น้อง แค่ทำโปรแกรมเก็บหน้าเว็บ ตามลิงค์ต่างๆ ถ้า Link พิสดารไปอยู่ในไฟล์แฟลช ก็เสร็จ......ไต่ไม่เป็น หรือเป็นหน้าที่ต้องเรียก Database มาแสดง ตามความต้องการของคนใช้ ไอ้ Bot ก็เสร็จครับเรียกใช้เองไม่เป็น.... แรกๆ มีไม่กี่แบบ ตอนนี้คงมีทุกแบบ แบบเร็ว Up เว็บเก็บปั๊ป แบบช้า เก็บที่เก็บทุกหน้า หรือเก็บรูป เก็บโฆษณา เยอะ........
อันที่สอง Indexing อินเด็กซ์แปลว่าเฟอร์นิเจอร์ ไม่ช่าย........แปลว่า จัดเก็บ แต่เก็บซั่วๆ ไม่เรียก Index ต้องมีการตรวจสอบ จัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ง่ายต่อการหา วิเคราะห์ข้อมูลได้
อันที่สาม Search ก็เทียบคำและสูตรผสม Index ที่ทำไว้ เพื่อแสดงผลค้นหาให้สัมพันธ์กับคำที่ค้น และเร็ว
มีแค่นี้ครับ โค ตะ ระ หมู........
แต่ผมทำไม่เป็นแค่นั้นเอง
ฟังดูง่าย นะครับ แต่เขียนโปรแกรมไม่หมู ผมยังจำได้ตอนเรียนสะเล่อ ไปลงวิชาเลือกเกี่ยวกับคอม เสร็จครับ เสร็จจริงๆ บิท ไบท์ ไทฟอยด์ Dos Fortran Pascal โอ้แม่เจ้า........ ไม่รู้เรื่องเลย จำข้อสอบได้จนทุกวันนี้ ข้อสอบมี 2 บรรทัด ให้ทำโปรแกรมจัดเกรด A B C D F ถ้าทำไม่ได้เอา F ไปกิน.......
โอทำไงเนี่ย............ง่ายจะตาย
ลอกแบบเป๊ะๆ ชัวร์ๆ ดึงกระดาษมันมาลอกเลย ผลได้ศูนย์.......
ทำไมเหรอครับ ลอกสลับบรรทัด อาจารย์ถามก็ไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้ายได้ D ครับ เพราะมาทำรายงานซ่อม................
นึกย้อนกลับไป ตอนนี้ถึงแม้จะไม่มีพื้นโปรแกรมเลย แต่ก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน เพราะทำให้ไม่กลัวที่จะใช้คอมฯ และรู้ทางมัน........ ไอ้นี่ คิดเองไม่เป็น ไม่สั่งไม่ทำ ฟายมันยังกินหญ้าเองเลย พับผ่า..........
แหม่....ตอนนั้นเซียนซะด้วย ต๋องกำลังดัง ถ้าข้อสอบออกว่า ตบแดงกินดำ ต้องทำยังไง ไม่มีพลาด...สกรูถอยหลัง ชนชิ่ง แล้วเด้งไปกลางโต๊ะ .......จบมาได้นี่เกือบโดนไล่ออกไปหลายรอบ แล้วก็เขียนๆ อยู่นี่ไม่ได้จบคอมนะครับ แต่ยุดนั้น มันกำลังมา เลยมีโอกาสไปเกี่ยวๆ หน่อย
ฝั่งคนทำโปรแกรม คิดสูตรจัดอันดับเว็บ อย่าไปสนใจมันมากครับ เอาว่ามันมีอดูด อดีต มายังไงพอสังเขป และให้รู้ว่ามันไม่ฉลาดเท่าไหร่ เลียนแบบวิธีคิดของคน มีช่องโหว่ให้เซียนด้วยกันเจาะอยู่เรื่อยๆ เมื่อก่อนเยอะ แต่เดี๋ยวนี้น้อยแล้ว มีก็ไปไว ซักปีที่แล้วเว็บพวก Search คำไหนก็เจอมัน เข้าไปไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ยังมีให้เห็นและอยู่นาน แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้ว ผมถือว่าเป็นของคู่กัน เซียนต่อเซียนเจอกัน มันก็ต้องแก้ลำกันไป ยิ่งสู้มันยิ่งเก่งขึ้นด้วยกันทั้งคู่ครับ แล้วสูตรของ Google ใช้จริงๆ ผมว่าไม่เกิน 100 แต่เซียนด้วยกันนี่ล่ะทำให้มีมากขึ้นอีกเท่าตัว
เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่จริง ไม่รู้จริง ไม่เคยรู้เลยว่าพวกนี้มันมีพื้นฐานมายังไง คิดอะไร ไม่เคยอ่านประวัติที่มาที่ไปของมัน ขออภัย อย่าแหลม......เสียเงินเปล่าๆ
สำหรับตัวพวกเรา เอาเป็นว่าทำเว็บยังไงให้ค้นเจอ ให้ถูกหลัก ให้มันเก็บข้อมูลได้ ก็พอแล้ว ส่วนรายละเอียดไม่ขอพูดถึง ตำราที่ขายอยู่บอกไว้เรียบร้อย แต่จริงๆ นะครับ ทำ On page ใครๆ ก็ทำได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะทำกันเลย......ยิ่ง Flash ดัง ทั้งเว็บมีตัวอักษรอยู่ 10 ตัว Google ก็ไม่รู้จะทำไงมันน้อยเกินไป
เรื่อง Onpage Offpage Back Link หรือ Bot ให้ความสำคัญระดับกลางๆ เอาให้ได้มาตรฐานพอ เพราะอะไร ประวัติศาสตร์และแนวทาง Search Engine มันสร้าง Bot มาให้มาเก็บมันก็ต้องมา ส่วน Back Link มันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพ จะมีมันก็มีเอง เป็นธรรมชาติได้แต้มเยอะกว่า หรือตามบอร์ดที่เนื้อหาเกี่ยวข้องก็พอได้........
ผมให้ความสำคัญเกี่ยวกับเนื้อหาเว็บเรามากกว่า ว่าใช่หรือเปล่า
อ้ออีกอย่าง ที่ไม่ค่อยพูดถึงกัน เรื่อง Stat หรือ สถิติ อย่าลืมนะครับว่า มันไม่ได้เก็บแค่หน้าเว็บ ทำสูตรให้ค้นหา มันเก็บสถิติการใช้งานด้วย ใครใช้ Stat ของ Google รู้ดี ละเอียดยิบ........
อย่างที่เคยเขียนไป PR 10 Back Link เป็นล้าน ผลค้นหาอยู่อันดับ 1 แต่คนเข้าไปแล้วถอยกลับมาภายในพริบตา ถ้าเข้าร้อยเป็นแบบนี้ 90 ไม่นานก็ตก หรืออยู่อันดับ 1 แต่คนเข้าอันดับ 2 มากกว่าหลายเท่า แสดงว่าผิดปกติอย่างแรง ตรวจด้วยโปรแกรมไม่เจอ เอาคนไปตรวจอีกที ชัด ชัด เว็บเซียน ดีดออกสารบบไปเลย
สถิติมันหลอกกันยาก สถิติก็คือ การเก็บข้อมูล อย่างลืมนะครับ 2 คน นี่มันไม่ได้เซียนโปรแกรมอย่างเดียว เซียน MIS ด้วย ข้อมูลสถิตินอกจากจะหลอกยากแล้ว ยังบอกอดีต รู้ปัจจุบัน เดาอนาคตได้ด้วย
(หมอดู นี่ ไม่มั่วนะครับ มันเกิดจากการเก็บสถิติแบบโบราณ น่ะจะบอกให้)
แนะนำให้มาดูเว็บคุณเอง ถ้าทำถูกหลักเสียวแล้ว ก็ดูสถิติ ว่าคนเข้ามา มาจากไหน ค้นด้วยคำอะไร มาแล้วดูกี่หน้า อยู่กี่นาที มีประเภท Bookmark หรือ Favorite บ้างมั้ย มีคนเอาชื่อเว็บเราไป Search บ้างหรือเปล่า ถ้า Traffic พอมี แต่มาแผล็บเดียว ดูหน้าเดียวแล้วไป แสดงว่าเนื้อหายังไม่ดีพอ หรือการเชื่อมโยงแต่ละหน้าไม่มีหรือไม่น่าสนใจ
ความลับและสูตรของ Google ถ้าทำสายขาว ไม่ต้องไปสนใจมันมาก
แต่ที่สนใจคือ ลองเดากันดู Search Engine ทุกยี่ห้อ รวม Google เกลียดอะไรมากที่สุด.........
ผมคิดว่ามีแค่ 2 อย่าง คือ อันแรก Search แล้วไม่เจอ อันที่สอง Search เจอแล้ว...ไม่ใช่ แถมอีกอันเพิ่งมาใหม่ Search เจอแล้ว มันซ้ำไปลอกเข้ามา
ทำไม……..ง่ายมาก
Search ไม่เจอ ก็อายม้วนต้วนนะซิตัวเอง ฐานข้อมูลไม่ดีพอ เก็บยังไงไม่เจอ
Search เจอแล้วไม่ใช่ อันนี้อายมากกว่าแบบแรก แสดงว่าคุณทึ่มไม่ดีพอ แยกไม่ออกว่าแท้หรือเทียม โดยเซียนเล่นเข้าให้แล้ว
2 อย่างนี้ถ้าเป็นเยอะ คนเปลี่ยนไปใช้ของคู่แข่งแน่ ถ้าแก้ไม่ตก..........ถึงกับต้องเลิกกิจการได้
ส่วน Search เจอแล้วซ้ำ ลอกเข้ามา ด้านเทคนิคไม่ร้ายแรงเท่า 2 ตัวแรก แต่น่าเกลียด ดูแล้วเป็นขยะอินเตอร์เน็ต คิดดูดีๆ Search ยี่ห้อนี่งามหน้ามากนะหล่อน............ผลค้นหา 5 อันดับแรก เรื่องเหมือนกันเลย.....ผลค้นหาขยะ เว็บขยะ Search Engine ก็ขยะ เปลี่ยนยี่ห้อดีกว่า
สุดท้าย Motto ของ Google
Google’s motto of making all the world’s information "universally accessible and useful.”
แปล ตามความเข้าใจ ไอ้ตง ต้มมัด.......
ข้อมูลข่าวสารของโลก ทุกที่ในจักรวาลที่เข้าไปได้ ไปเอามาและใช้มันให้เป็นประโยชน์
ตัวคุณเอง..........
ข้อมูลทุกอย่างในโลก มีคนไปเอามาให้แล้ว คิดเอาว่าจะใช้ประโยชน์จาก Google ยังไง........
(สมัยนี้ต้องเพิ่ม สายดำ สายขาว ไม่ว่ากัน แต่ขอให้มีศีลธรรม คุณธรรมหน่อยแล้วกัน)
สุดท้ายอีกที ………
Page กับ Brin ทั้งสองเกิดปีเดียวกัน ค.ศ. 73 อายุตอนนี้ก็ 35-36 ปี.......
จบ.........
ชื่อ วอนนอนคุก อีกคนชื่อ เตียงยังซุด
Post Merge: March 26, 2009, 09:26:03 PM
ต่่อจากเมื่อวาน อีก 2 คนที่เหลือ ไม่ใช่ใครที่ไหน
ก็พี่ท่านที่ก่อตั้ง Google
คงไม่ต้องไปพูดถึง Googel มาจากคำว่าอะไร เอาเป็นว่าตอนนี้ Google เป็นอันดับ 1 เรื่อง Search Engine มีข้อมูลว่าในหนึ่งวัน มีคนค้นหลายร้อยล้านครั้ง และคนที่เหลืออีก 2 คน จาก 5 ที่พูดไว้ เป็นใครไม่ได้นอกจาก Larry Page และ Sergey Brin พัฒนาปี 97 เปิดตัวปี 98 มาดังตอนปี 2000 ช่วง Dot Com Bubble
คนแรก Larry Page เกิดเมื่อ............ ขอข้ามไปก่อน กลัวมีคนช้ำใจหลายคน จบวิทย์คอม พ่อเป็นดอกเตอร์ด้านวิทย์คอม เกี่ยวกับ AI (Artificial intelligence) แม่มีเชื่อสายยิว มาอีกแล้วยิว คนดังประวัติศาสตร์โลกมีเชื้อยิวเยอะมาก เมื่อก่อนสงสัยมากทำไมชาวยิวมีคนเก่งเยอะ รวยๆ ทั้งนั้น และที่สำคัญประวัติศาสตร์โลกมักจะมีเชื้อสายยิวมาเกี่ยวเสมอ
แต่หายสงสัยไปนานแล้วครับ ว่าทำไม เพราะคนต้นคิดคำนวณดอกเบี้ยเป็นชาวยิว ระบบธนาคารก็มาจากชาวยิว เค้าว่าคิดมาได้เป็นพันปีแล้ว ใครอยากรู้เรื่องชาวยิว ลองหาหนังสือของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ดู
Page จบตรีวิศวะคอม และโทวิทย์คอม ตอนเรียนโทที่ Michigan เจ็ Wiki บอกว่าพี่แก ผลิต Inkjet Printer จาก Lego Bricks งง มันเอา Lego มาทำ Printer ได้ไง
คนที่สอง Sergey Brin อายุเท่ากับ Page เป็นชาวรัสเซียอพยพ ตามพ่อมาอยู่อเมริกาตั้งแต่ 6 ขวบ เรียนสายวิทย์คอมเหมือนกัน
แหม่.......นึกแล้วเสียดาย ไม่เลือกเอ็นวิทย์คอม มันมีความหลังครับ แค้นอาจารย์ ตั้งแต่มันมาที่โรงเรียนครั้งแรก เลยไม่เลือกเรียน
ทั้งสองคนมาเจอกันตอนเรียนดอกเตอร์ ด้านวิทย์คอมที่ Stanford กลายเป็นเพื่อนซี้ ตูรักมึง....... ขออภัย ประมาณว่าถูกคอกันสุดๆ เป็นเพื่อนร่วมห้องนอนกัน ตอนเรียนใช้คอมถูกๆ ทำ Data Mining แปลเป็นไทย เหมืองข้อมูล อันนี้เป็นสาย MIS รวบรวมข้อมูล จัดเก็บข้อมูล เพื่อเรียกมาใช้ ถ้าข้อมูลเยอะมากๆ ไม่หมูที่จะเรียกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมการวิเคราะห์ข้อมูลยังไม่ง่าย ทั้งสองทำ Search Engine ให้ใช้ในมหาลัย จากการแปลประมาณว่าทำเสร็จแล้ว
อยู่ๆ ก็พักการเรียนไปเช่าโรงรถตั้ง Google กัน พี่ท่านคงเห็นช่องอะไรบางอย่าง..............และอ่านอนาคต เทียบกับขาเก่าแล้ว ดังแน่......... ไปเว้ย เพจ ไปรวยกัน
ทั้งสอง ถูกจัดให้เป็นบุคคลสำคัญอันดับหนึ่งของ Web รวยมหาศาล.......
ทำไม Google เข้ามาแทรกและดังได้ นี่ยังเป็นปัญหา……
แต่ถ้าจะเอาความเห็นส่วนตัวผสมกับหลายอย่างที่อ่านมา พอสรุปว่า ช่วงนั้นเป็นช่วง Dot Com บูมสุดๆ จำได้ช่วงนั้นเว็บรกมาก รกยังไง ไปดู Yahoo กับ Sanook เว็บที่ดังๆ เป็นเว็บท่า โฆษณาเต็มไปหมด รำคาญลูกตามาก คนยังไม่นิยมใช้ Search Engine มาก เพราะยังไม่ค่อยตรง หรือเร็ว เท่าไหร่
Google เข้ามาแทรกด้วยความแตกต่าง หน้าขาวจ๊วด ถ้าให้เดา ทั้ง Brin และ Page เมียผิวขาวชัวร์....ไม่มีโฆษณา ให้เห็นเลย แถม เปิดปุ้ป โหลดปั๊ป อันนี้สำคัญนะครับ สมัยนั้น เล่นผ่าน Modem 56K นะครับ ไม่ใช่ ADSL
อีกส่วนที่แน่ๆ คือ ผลการค้นหา เนื่องจากไม่มีเชิงธุรกิจมาเกี่ยวข้อง ผลการค้นจึงเป็นไปตามสูตรที่คิดไว้ และที่ควรจะเป็น ประมาณว่า ค้นแล้วเจอ ค้นแล้วใช่ และแน่ๆ คือ เร็วที่สุดในโลก........
ไม่พอยังท้าคนค้นด้วยปุ่ม ค้นแล้วเข้าเว็บเลย.......นายแน่มาก…มีผลด้านจิตวิทยา ถามว่าเคยใช้มั้ย ปีนึงนับครั้งได้...
คนเลยเริ่มนิยม ผมอ่านแบบไม่ละเอียดมากนัก Algorithm ของ Google ส่วนผสมที่สำคัญคือ PageRank และปัจจัยอื่น รวมๆ กันได้ประมาณ 200 พื้นฐานสำคัญของ PageRank มีพื้นฐานว่า จะวิเคราะห์ลิงค์ที่ส่งมาหน้านี้ ว่าดีหรือไม่ดีและให้แต้มเท่าไหร่ ตัวนี้เป็นตัวแตกต่างจากยี่ห้ออื่น และที่สำคัญเป็นการพยายามเลียนแบบวิธีคิดของมนุษย์ ตอนแรกนับปริมาณลิงค์และให้แต้มเฉยๆ หลังๆ พวกรู้ทัน ทำเว็บปั่นมาชน หลังๆ เลยมีเชิงวิเคราะห์เข้าไป แล้วก็เพิ่มโน้นเพิ่มนี่ไปอีก
ถ้าจะอธิบายแบบที่เคยพูดไป ว่า AI เป็นการเลียนแบบมนุษย์ ใครที่คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เลียนแบบมนุษย์ได้ถือว่าสุดยอด เช่น ทำหุ่นยนต์เลียนแบบมือ ตอนนี้ทำได้แบบ 100% หรือยัง........ ต้องถือว่ายัง นิ้วเรา มือเรา การสั่งงานถ้าทำโปรแกรม มันจะซับซ้อนมาก ถึงมาก ถึงมาก พอๆ มากที่สุดครับ……
มีต่อ ทนอีกหน่อยใกล้จบแล้ว........
ผมล่ะเชื่อ มีคนตามอ่านได้ขนาดนี้...........
Post Merge: March 26, 2009, 09:45:48 PM
โปรแกรมวิเคราะห์ของ Google หรือ Algorithm มีพื้นฐานเลียนแบบความคิดของมนุษย์ ก็ถือว่าพัฒนาได้สุดยอด แต่ถามว่าเหมือนมนุษย์หรือยัง ต้องเรียกว่า พอๆ กับทำหุ่นยนต์ล่ะครับ ไม่ 100% ถ้าเทียบความคิดหรือสติปัญญามนุษย์จะอยู่ระดับ ทึ่มๆ ไม่บอกไม่ทำ ไม่สั่งไม่ไป ขยันแต่โง่ แต่ส่วนดีแน่ๆ คือมันแม่น ประมาณนี้ แต่ถ้าเทียบพวกสิ่งประดิษฐ์เลียนแบบด้วยกัน ต้องถือว่าสุดยอด ยกให้คนคิด และที่คนคิดมันฉลาดกว่านั้น คือ มันเอาคุณทึ่ม หลายตัวๆ มารวมกัน ทำงานประสานกัน จนเรารู้สึกว่ามันยอดมาก.......
ถ้าจะยกตัวอย่าง เรื่อง PageRank หรืออธิบายง่ายๆ ก็ประมาณว่า ถ้าเราอยากรู้ว่า คนไหนเก่งและให้คำแนะนำเรื่อง การใช้ Excel ในที่ทำงาน เราก็จะถามเพื่อน คนแรกบอกให้ถามสมชาย แต่ดูหน้าตาแล้วไม่น่าจะใช่ หน้าไม่ขึ้นสูตร ไม่แน่ใจลองถามผู้เชี่ยวชาญฝ่าย IT ก็แนะนำไปถามสมชาย ถามคนข้างๆ อีก 2-3 คน ส่วนใหญ่ Refer ให้ไปถามสมชาย คนเก่งคอมอยู่แล้วยัง Refer สมชาย ชัดเลยถ้าเรื่อง Excel ไปหาสมชาย
กลับมาพวก Search Engine คำที่ค้น คำนี้ มีหลายเว็บมากที่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นับจำนวน KW ดูตำแหน่งอย่างเดียว ก็เหมือนกับ Search ตัวอื่น จะวัดยังไงดี.........ก็คิดให้เหมือนคนถ้ามีคน Refer เยอะก็ให้อันดับดีกว่าคน Refer น้อย Refer ทางโปรแกรมไม่รู้จะใช้อะไรวัด จะวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปว่าเขียนดีไม่ดี ก็กระไรตูไม่ใช่มนุษย์ ถ้าแน่จริงสั่งมาว่าดีของมนุษย์วัดยังไง........
มีอยู่ตัวเดียวคือ Link ก็ใช้ Link ที่ชี้มาแทน ถ้าเว็บที่ชี้มาไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกันเลย ประมาณถามไปว่า ประเทศไทยมีกี่จังหวัด มันตอบ ผีแพ้หงส์ ตัดทิ้งไป ถ้าหน้าเว็บที่ Link มามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ให้แต้มไป และที่สำคัญหน้าที่ Link มาเป็นหน้าที่ทั้งเกี่ยวข้องและเป็นที่ยอมรับนับถืออยู่แล้ว ก็ให้แต้มมากหน่อย ประมาณว่า PR สูงชี้มา PR ต่ำกว่า ว่างั้น ใครมีแต้มสูงกว่า อันดับดีกว่า......นั่นล่ะครับคล้ายมนุษย์ คนเลยถูกใจ
และยังมีอีกหลายตัวที่มันเลียนแบบคนก็ใกล้ๆ ปากไงครับ ความสามารถทางภาษา อันนี้ยิ่งยากเข้าไปอีก
เอาอีกหน่อย เช่น เวลาคนจะทำรายงานส่งอาจารย์ซักเรื่อง ในเล่มต้องมีอะไรบ้าง ชื่อรายงาน คำนำ สารบัญ ชื่อบทที่ 1 บทที่ 2 ชื่อข้อย่อย ต่างๆ ใช่มั้ย ใครๆ ก็ทำ ลองคิดดูถ้าคุณจะหาหนังสือเกี่ยวกับการทำส้มตำ มีหนังสือที่สอนตำส้มตำอยู่เล่มเดียว ข้างในชัด บอกตั้งแต่การสอยมะละกอ......ตวงปลาร้า แต่มันตั้งชื่อหนังสือว่า ทำไมเครื่องบินถึงบินได้ คุณจะหยิบเล่มนั้นมาดูมั้ย......... นั่นล่ะเหมือนทำเว็บเลย.........
ไอ้ส่วนนี้ตามตำราเสียวท่านว่าทำ On Page ส่วนเรื่อง PR ท่านว่าเป็นเรื่อง Off Page
On Page ก็คือทำเว็บเราเอง ทำให้ถูกหลัก SEO ถูกยังไง เหมือนทำหนังสือ มีชื่อเว็บ ชื่อเรื่อง ชื่อตอน ย่อหน้า ชื่อรูปอธิบาย อ่านง่าย แยกแยะ แบ่งเรื่องได้ดี เขียนเรื่องอะไรก็มี KW เรื่องนั้นในจุดที่ควรจะมี ทำโครงสร้างให้ Bot มันเก็บได้ง่าย มีแค่นี้ครับ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ โครงสร้าง Blog ทุกยี่ห้อ ดีอยู่แล้ว
Off Page ตำราเสียวท่านว่า เป็นการ Promote Backlink PR ประมาณนั้น บางที่ คิดอย่างเดียว มีลิงค์กลับมาเยอะๆ ดี พวก...โปรโมทแหลก มันก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ขึ้นกับปริมาณอย่างเดียว.......
มันก็เอามาผสมผสานกันหลายตัว คิดเป็นสูตรเป็นโปรแกรม และก็จัดอันดับการค้นหา เตรียมเสริฟก่อน พอมีคำนี้ค้นมา เสริฟได้ทันที
การทำงานของ Search Engine ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ
อันแรก มันก็สร้างโปรแกรมไปเก็บหน้าเว็บมา ภาษาอังกฤษเรียก Web Crawling คำว่า Crawl แปลว่าคลานหรือเลื้อย ส่วนโปรแกรมันก็ตั้งไปว่า Bot Spider ไม่ได้มีไสยศาสตร์ หรือมนต์ดำอะไรครับพี่น้อง แค่ทำโปรแกรมเก็บหน้าเว็บ ตามลิงค์ต่างๆ ถ้า Link พิสดารไปอยู่ในไฟล์แฟลช ก็เสร็จ......ไต่ไม่เป็น หรือเป็นหน้าที่ต้องเรียก Database มาแสดง ตามความต้องการของคนใช้ ไอ้ Bot ก็เสร็จครับเรียกใช้เองไม่เป็น.... แรกๆ มีไม่กี่แบบ ตอนนี้คงมีทุกแบบ แบบเร็ว Up เว็บเก็บปั๊ป แบบช้า เก็บที่เก็บทุกหน้า หรือเก็บรูป เก็บโฆษณา เยอะ........
อันที่สอง Indexing อินเด็กซ์แปลว่าเฟอร์นิเจอร์ ไม่ช่าย........แปลว่า จัดเก็บ แต่เก็บซั่วๆ ไม่เรียก Index ต้องมีการตรวจสอบ จัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ง่ายต่อการหา วิเคราะห์ข้อมูลได้
อันที่สาม Search ก็เทียบคำและสูตรผสม Index ที่ทำไว้ เพื่อแสดงผลค้นหาให้สัมพันธ์กับคำที่ค้น และเร็ว
มีแค่นี้ครับ โค ตะ ระ หมู........
แต่ผมทำไม่เป็นแค่นั้นเอง
ฟังดูง่าย นะครับ แต่เขียนโปรแกรมไม่หมู ผมยังจำได้ตอนเรียนสะเล่อ ไปลงวิชาเลือกเกี่ยวกับคอม เสร็จครับ เสร็จจริงๆ บิท ไบท์ ไทฟอยด์ Dos Fortran Pascal โอ้แม่เจ้า........ ไม่รู้เรื่องเลย จำข้อสอบได้จนทุกวันนี้ ข้อสอบมี 2 บรรทัด ให้ทำโปรแกรมจัดเกรด A B C D F ถ้าทำไม่ได้เอา F ไปกิน.......
โอทำไงเนี่ย............ง่ายจะตาย
ลอกแบบเป๊ะๆ ชัวร์ๆ ดึงกระดาษมันมาลอกเลย ผลได้ศูนย์.......
ทำไมเหรอครับ ลอกสลับบรรทัด อาจารย์ถามก็ไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้ายได้ D ครับ เพราะมาทำรายงานซ่อม................
นึกย้อนกลับไป ตอนนี้ถึงแม้จะไม่มีพื้นโปรแกรมเลย แต่ก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน เพราะทำให้ไม่กลัวที่จะใช้คอมฯ และรู้ทางมัน........ ไอ้นี่ คิดเองไม่เป็น ไม่สั่งไม่ทำ ฟายมันยังกินหญ้าเองเลย พับผ่า..........
แหม่....ตอนนั้นเซียนซะด้วย ต๋องกำลังดัง ถ้าข้อสอบออกว่า ตบแดงกินดำ ต้องทำยังไง ไม่มีพลาด...สกรูถอยหลัง ชนชิ่ง แล้วเด้งไปกลางโต๊ะ .......จบมาได้นี่เกือบโดนไล่ออกไปหลายรอบ แล้วก็เขียนๆ อยู่นี่ไม่ได้จบคอมนะครับ แต่ยุดนั้น มันกำลังมา เลยมีโอกาสไปเกี่ยวๆ หน่อย
ฝั่งคนทำโปรแกรม คิดสูตรจัดอันดับเว็บ อย่าไปสนใจมันมากครับ เอาว่ามันมีอดูด อดีต มายังไงพอสังเขป และให้รู้ว่ามันไม่ฉลาดเท่าไหร่ เลียนแบบวิธีคิดของคน มีช่องโหว่ให้เซียนด้วยกันเจาะอยู่เรื่อยๆ เมื่อก่อนเยอะ แต่เดี๋ยวนี้น้อยแล้ว มีก็ไปไว ซักปีที่แล้วเว็บพวก Search คำไหนก็เจอมัน เข้าไปไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ยังมีให้เห็นและอยู่นาน แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้ว ผมถือว่าเป็นของคู่กัน เซียนต่อเซียนเจอกัน มันก็ต้องแก้ลำกันไป ยิ่งสู้มันยิ่งเก่งขึ้นด้วยกันทั้งคู่ครับ แล้วสูตรของ Google ใช้จริงๆ ผมว่าไม่เกิน 100 แต่เซียนด้วยกันนี่ล่ะทำให้มีมากขึ้นอีกเท่าตัว
เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่จริง ไม่รู้จริง ไม่เคยรู้เลยว่าพวกนี้มันมีพื้นฐานมายังไง คิดอะไร ไม่เคยอ่านประวัติที่มาที่ไปของมัน ขออภัย อย่าแหลม......เสียเงินเปล่าๆ
สำหรับตัวพวกเรา เอาเป็นว่าทำเว็บยังไงให้ค้นเจอ ให้ถูกหลัก ให้มันเก็บข้อมูลได้ ก็พอแล้ว ส่วนรายละเอียดไม่ขอพูดถึง ตำราที่ขายอยู่บอกไว้เรียบร้อย แต่จริงๆ นะครับ ทำ On page ใครๆ ก็ทำได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะทำกันเลย......ยิ่ง Flash ดัง ทั้งเว็บมีตัวอักษรอยู่ 10 ตัว Google ก็ไม่รู้จะทำไงมันน้อยเกินไป
เรื่อง Onpage Offpage Back Link หรือ Bot ให้ความสำคัญระดับกลางๆ เอาให้ได้มาตรฐานพอ เพราะอะไร ประวัติศาสตร์และแนวทาง Search Engine มันสร้าง Bot มาให้มาเก็บมันก็ต้องมา ส่วน Back Link มันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพ จะมีมันก็มีเอง เป็นธรรมชาติได้แต้มเยอะกว่า หรือตามบอร์ดที่เนื้อหาเกี่ยวข้องก็พอได้........
ผมให้ความสำคัญเกี่ยวกับเนื้อหาเว็บเรามากกว่า ว่าใช่หรือเปล่า
อ้ออีกอย่าง ที่ไม่ค่อยพูดถึงกัน เรื่อง Stat หรือ สถิติ อย่าลืมนะครับว่า มันไม่ได้เก็บแค่หน้าเว็บ ทำสูตรให้ค้นหา มันเก็บสถิติการใช้งานด้วย ใครใช้ Stat ของ Google รู้ดี ละเอียดยิบ........
อย่างที่เคยเขียนไป PR 10 Back Link เป็นล้าน ผลค้นหาอยู่อันดับ 1 แต่คนเข้าไปแล้วถอยกลับมาภายในพริบตา ถ้าเข้าร้อยเป็นแบบนี้ 90 ไม่นานก็ตก หรืออยู่อันดับ 1 แต่คนเข้าอันดับ 2 มากกว่าหลายเท่า แสดงว่าผิดปกติอย่างแรง ตรวจด้วยโปรแกรมไม่เจอ เอาคนไปตรวจอีกที ชัด ชัด เว็บเซียน ดีดออกสารบบไปเลย
สถิติมันหลอกกันยาก สถิติก็คือ การเก็บข้อมูล อย่างลืมนะครับ 2 คน นี่มันไม่ได้เซียนโปรแกรมอย่างเดียว เซียน MIS ด้วย ข้อมูลสถิตินอกจากจะหลอกยากแล้ว ยังบอกอดีต รู้ปัจจุบัน เดาอนาคตได้ด้วย
(หมอดู นี่ ไม่มั่วนะครับ มันเกิดจากการเก็บสถิติแบบโบราณ น่ะจะบอกให้)
แนะนำให้มาดูเว็บคุณเอง ถ้าทำถูกหลักเสียวแล้ว ก็ดูสถิติ ว่าคนเข้ามา มาจากไหน ค้นด้วยคำอะไร มาแล้วดูกี่หน้า อยู่กี่นาที มีประเภท Bookmark หรือ Favorite บ้างมั้ย มีคนเอาชื่อเว็บเราไป Search บ้างหรือเปล่า ถ้า Traffic พอมี แต่มาแผล็บเดียว ดูหน้าเดียวแล้วไป แสดงว่าเนื้อหายังไม่ดีพอ หรือการเชื่อมโยงแต่ละหน้าไม่มีหรือไม่น่าสนใจ
ความลับและสูตรของ Google ถ้าทำสายขาว ไม่ต้องไปสนใจมันมาก
แต่ที่สนใจคือ ลองเดากันดู Search Engine ทุกยี่ห้อ รวม Google เกลียดอะไรมากที่สุด.........
ผมคิดว่ามีแค่ 2 อย่าง คือ อันแรก Search แล้วไม่เจอ อันที่สอง Search เจอแล้ว...ไม่ใช่ แถมอีกอันเพิ่งมาใหม่ Search เจอแล้ว มันซ้ำไปลอกเข้ามา
ทำไม……..ง่ายมาก
Search ไม่เจอ ก็อายม้วนต้วนนะซิตัวเอง ฐานข้อมูลไม่ดีพอ เก็บยังไงไม่เจอ
Search เจอแล้วไม่ใช่ อันนี้อายมากกว่าแบบแรก แสดงว่าคุณทึ่มไม่ดีพอ แยกไม่ออกว่าแท้หรือเทียม โดยเซียนเล่นเข้าให้แล้ว
2 อย่างนี้ถ้าเป็นเยอะ คนเปลี่ยนไปใช้ของคู่แข่งแน่ ถ้าแก้ไม่ตก..........ถึงกับต้องเลิกกิจการได้
ส่วน Search เจอแล้วซ้ำ ลอกเข้ามา ด้านเทคนิคไม่ร้ายแรงเท่า 2 ตัวแรก แต่น่าเกลียด ดูแล้วเป็นขยะอินเตอร์เน็ต คิดดูดีๆ Search ยี่ห้อนี่งามหน้ามากนะหล่อน............ผลค้นหา 5 อันดับแรก เรื่องเหมือนกันเลย.....ผลค้นหาขยะ เว็บขยะ Search Engine ก็ขยะ เปลี่ยนยี่ห้อดีกว่า
สุดท้าย Motto ของ Google
Google’s motto of making all the world’s information "universally accessible and useful.”
แปล ตามความเข้าใจ ไอ้ตง ต้มมัด.......
ข้อมูลข่าวสารของโลก ทุกที่ในจักรวาลที่เข้าไปได้ ไปเอามาและใช้มันให้เป็นประโยชน์
ตัวคุณเอง..........
ข้อมูลทุกอย่างในโลก มีคนไปเอามาให้แล้ว คิดเอาว่าจะใช้ประโยชน์จาก Google ยังไง........
(สมัยนี้ต้องเพิ่ม สายดำ สายขาว ไม่ว่ากัน แต่ขอให้มีศีลธรรม คุณธรรมหน่อยแล้วกัน)
สุดท้ายอีกที ………
Page กับ Brin ทั้งสองเกิดปีเดียวกัน ค.ศ. 73 อายุตอนนี้ก็ 35-36 ปี.......
จบ.........
บทความ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น