ทฤษฎี 3 Click Marketing อาวุธที่ต้องนำมาปรับใช้กับ Astore โดยดีเจต้น
ครับหลังจากที่เรานั้นได้ทำการปั้มร้าน Astore ขึ้นมาแล้วนะครับ สิ่งสำคัญประการต่อไปที่ผมเห็นว่ามีความจำเป็นมากนั่นคือ การติดอาวุธให้กับ Astore ของเรา ซึ่งมีอาวุธมากมายเลยครับ ที่เราสามารถนำมาปรับใช้ได้ (โดยจะทยอยนำมาเป็นลำดับต่อไป) โดยอาวุธตัวแรกสุดนี้คือ 3 Click Marketing ซึ่งนำมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่มักจะตัดสินใจในการทำกิจกรรม บางอย่างโดยใช้เพียง 3 Click เท่านั้น ซึ่งในฐานะที่เราเป็น Affiliate เราจำเป็นต้องปิดการขายให้ได้ภายในสามคลิกนี้เท่านั้นครับ ดังนั้นเพื่อให้เรามองเห็นภาพว่า Visitor เมื่อต้องการจะเลือกซื้อสินค้าสักชื้น เขาจะทำอะไรบ้าง ในมุมมองทฤษฎี 3 คลิก
คลิกที่ 1 ผู้ค้นหาเลือกคำที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ต้องการซื้อชุดว่ายน้ำผู้หญิงราคาถูก ก็จะพิมพฺ์ว่า cheap women swim
คลิกที่ 2 ผู้ค้นหาพบเว็บจาก astore ดังรูปแรก แล้วคลิกเข้ามาเพื่อหาสินค้า
คลิกที่ 3 เมื่อเจอสินค้าในหน้าแรกตรงกับความต้องการก็จะซื้อทันที
ถ้าเกินกว่านี้ผู้ซื้อสินค้าจะไม่ทำการคลิก ส่วนใหญ่จะปิดและไปที่เว็บอื่นต่อไป
เมื่อเราทราบแล้วว่านี่คือเหตุ ดังนั้นเราจะต้องสร้าง ปัจจัยทางการตลาดหรือ need ให้เกิดขึ้นในกระบวนการสามคลิกนี้ให้ได้ โดยปัจจัยที่เรา
จำเป็นต้องสร้างขั้นมา และก่อให้เกิดพลวัติที่เป็น need ได้นั้นคงต้องประกอบด้วย
1.Keywords
หรือคำที่เรานำมาใช้ โดยต้องมาจากสูตร 3T5C หรือสูตรอื่นๆที่เรามีก็ได้ครับ โดย คีย์ที่เราเลือกมานั้นจะถูกนำมาสร้าง Tracking ID ในร้าน Astore และอย่างลืมเติม Prefix ลงไปด้วยนะครับ โดย Prefix ที่น่าสนใจและน่านำไปเติมได้แก่
cheap
best
where to buy
top price
เป็นต้น โดยคำที่เป็น Prefix ต้องเป็นคำที่บ่งบอกนัยตลาดสินค้าใน Astore ของเราด้วยนะครับเมื่อเราเริ่มตั้ง Tracking ID ก็จะมีคำถามว่าแล้วเราจะเริ่มตั้งอย่างไรดี ในขั้นตอนนี้ผมแนะนำว่าลองตั้งโดยใช้แนวสองแนวนี้ก็ได้ครับ
- ใช้ดอท หรือจุดนั่นเอง คือใช้จุดคั่นระหว่างคำ เช่น cheap.notebook
- ใช้แดสกลาง - เช่น cheap-notebook
แต่ที่ผมคิดว่าน่าจะดีที่สุดน่าจะเป็นการใช้ดอทครับ เพราะ สามารถทำให้ผู้เยี่ยมชม มองเห็นคำโดยรวม จะทำให้โฮกาสเกิดการคลิกสูง
ลองมองดูลิ้งค์สองอันด้านล่างสิ
(ลิ้งค์สมมุติ)
โค๊ด:
http://astore.amazon.com/cheap-hp-notebook-3000-20
กับ
โค๊ด:
http://astore.amazon.com/cheap.hp.notebook.3000-20
ผมมองว่าอันที่สองจะอ่านง่ายกว่านะ อันนี้เพื่อนๆลอง spit test ดูระกัน
2.ช่องบรรยาย Description สำคัญมาก
ช่องนี้ในหมวด Catalogly จะมีความสำคัญมากโดยเฉพาะผลทาง SEO ดังนั้นแนะนำว่า ถ้าเขียนขึ้นมาเองได้จะดีมากๆเลยครับ แต่ถ้าเขียนภาษาอังกฤษไม่เป็น อาจจำเป็นต้องจ้างคนอื่นนะครับ หรือถ้าไม่ได้จริงลองใช้ โปรแกรม Rewrite Article ก็ได้นะครับ มีมากมายหลายเจ้าทีเดียว หรือจะใช้บริการของบอร์ดแห่งนี้ก็ได้ครับลองดูตัวอย่าง Astore ที่มีการบรรยายแล้วน่าสนใจดูเป็นแนวทางนะครับ
คำบรรยายในร้านนี้ดีมากครับ ใช้แนวเอา นีทคีย์ มาใส่แต่เรียงประโยคแล้วอ่านได้สมูทดี ลอง copy แนวทางไปใช้ดูสิครับ
(รูป)สำหรับคำบรรยายที่นี่ ผมว่าใช้ภาษาสมูทดี ไม่เล่นคีย์มากนัก น่าเอามาใช้เป็นแนวทางในการเขียนครับ
อันนี้ก็ดีครับ ลองดูแนวๆนะ
3.ช่องตารางสินค้า มี 9 ช่อง
สำคัญมากเลยครับ ต่อพลวัตการตัดสินใจซื้อ ซึ่งในเก้าช่องในหน้าแรกนั้นต้องเป็นสินค้าที่ตรงกับ Niche Keywords ที่เราเลือกมาทำเป็น Tracking IDกันเลยทีเดียวครับ ห้ามนำสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้องหรือข้างเคียงแอดมาตรงเก้าช่องนี้นะครับ เพราะนี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว คลิกที่สามจะเกิดตรงนี้ ถ้า
เขาไม่คลิกละก็ ลำบากละครับงานนี้ ดังนั้นในตาราง 9 ช่อง ก็จะมีตำแหน่งที่เราต้องวางสินค้าเป็นพิเศษอยู่สี่ตำแหน่งครับ ลองดูตามรูปนะครับ
สรุปว่าปัจจัยสามข้อนี้เราสร้างขึ้นมาเพื่อ Support 3 CM นะครับ โดยยังต้องปรับปรุงปัจจัยอื่นเพิ่มอีกหลายประการ โดยจะทยอยนำเรียน
เป็นลำดับต่อไปครับ
โดยความคิดส่วนตัว แม้ว่าในปัจจุบัน จะมีแนวทางอื่นอีกมากมาย แต่ผมว่า 3CM ยังจำเป็นเสมอครับ ตราบใดที่บุคคลที่เข้ามาซื้อสินค้าจาก ร้าน Astore
นั้นคือ มนุษย์
ปล.บทความนี้เหมาะกับคนใหม่ไร้ทุน และเริ่มต้นจากศูนย์นะครับ ใครเทพแล้ว ไม่ต้องใช้อย่างนี้ก็ได้เพราะมันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องทำอยู่แล้ว
ปล.ไม่เข้าใจเนื้อหา สอบถามเพิ่มเติมในรายการได้
>>>>>>>>>>
บทความ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น