วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วิจัยตลาด


เพื่อนๆครับ จำได้มั้ยว่าผมเคยทำการโหวตเรื่อง ปัญหาที่เราต้องแก้ไข หนึ่งในปัญหาฮิตของ affiliate marketers ส่วนใหญ่คือการทำวิจัยตลาด

ย้ำนะครับว่าการทำวิจัยตลาด เพราะว่าส่วนมากที่ผมเห็นหรือว่ามีคน pm มาหรือส่ง email มา (จากหลายๆแห่งนะครับ) นั้นผมรู้สึกว่า คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ การหา products มาก กว่าการทำวิจัยตลาด

กฎข้อแรกของผมเอง คือการทำวิจัยตลาดครับ ไม่ใช่การทำวิจัย หรือหา products เพราะว่า ถ้าเราสามารถหา market ที่เราสามารถทำเงินได้แล้ว ก้อเป็นเรื่องง่ายที่จะหา products หรือถ้าหาไม่ได้เราก้อสามารถจะสร้างขึ้นมาได้เอง (ยิ่งดีนะครับ ทำเอง กินเอง รวยเองนะครับ Cheesy) กลับกันนะครับ ถ้าเราหา products ที่คิดว่าจะทำเงินได้ แต่ผลปรากฎว่า market ของสินค้าตัวนั้นไม่ฮิตหรือไม่สามารถทำเงินได้เท่าที่ควร ก้อจะทำให้เราไม่สามารถทำกำไรได้มากอย่างที่ควรจะเป็น (แต่ผมไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะครับ เพียงอยากแชร์กับเพื่อนๆว่าอันไหนน่าจะทำก่อนนะครับ Cheesy)

ซึ่งนอกเหนือจากการทำวิจัยตลาดแล้ว สิ่งที่ผมทำต่อมาก้อคือการหา content ที่ดีๆ ไม่เหมือนใคร (พูดง่ายๆก้อคือเขียน article เองนะครับ อย่าเพิ่งตกใจนะครับ ถ้าเพื่อนๆมีปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษ และไม่ชอบเขียน ผมมีทางออกให้นะครับ แต่คงไม่ได้พูด ณ ที่นี้นะครับ) ซึ่งบ่อยครั้งที่ผมเองสามารถหา content ที่ดีได้ก่อนการหา market (เหมือนๆกับที่ บ่อยครั้งที่ผมเองก้อหา niche market จาก niche keywords นะครับ)

ซึ่งผมเองได้ไปเจอ website หนึ่งที่เกี่ยวกับ niche content ซึ่งจะทำให้เราสามารถหา niche market and content ได้ง่ายและรวดเร็วมากนะครับ ซึ่งตอนนี้ผมเองก้อกำลังรวบรวมหนังสือที่เกี่ยวกับ my top affiliate programs ที่ผมทำกำไรได้ และอื่นๆอีกมากมายรวมทั้งการทำวิจัยตลาดผ่าน niche content นะครับ เมื่อเสร็จแล้วผมจะนำมาฝากเพื่อนๆนะครับ Cheesy

สุดท้ายครับ อยากบอกว่าให้เราสนใจเรื่องการทำวิจัยตลาดมาเป็นอันดับแรก ซึ่งการทำวิจัยตลาดหรือการหา niche market นั้นก้อสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่ผมชอบและทำอยู่ทุกวันนี้ก้อคือการหา niche market ผ่านการหา niche keywords and niche content นะครับ

เพื่อนๆคิดว่างัยกันบ้างนะครับ Smiley

ขอให้สนุกนะครับ

zTopAffiliateMarke

>>>>>>>>>

ขั้นแรกสุดก้อคือการหาตลาดที่กำลังฮิตหรือเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปก่อน
ขั้นสองคือการทำการหา products and services เพื่อรองรับความต้องการนั้น
ขั้นสามคือ ไม่มีใครรู้ได้ว่าเราทำการหาตลาดถูกหรือไม่ จนกว่าจะได้ทดสอบครับ Smiley สำคัญมาก โดยการทดสอบก้อให้ทำการทดสอบสินค้าในตลาดนั้นว่าเป็นที่ต้องการหรือไม่??? ถ้าไม่ใช่ เราสามารถหาสินค้าอื่นได้มั้ย??? หรือว่าเราวิเคราะห์ตลาดผิด?Huh? แล้วเราสามารถหาตลาดที่ใกล้เคียงได้มั้ย???

จากที่ผมได้ทำมาผมได้แยกออกเป็น 3 วิธีหลักดังนี้

1) การหาตลาดผ่าน niche keywords
2) การหาตลาดผ่าน forums, webboards, news and groups ต่างๆ
3) การหาตลาดผ่าน niche content

โดยแต่ละอันมีรายละเอียดเยอะมาก ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้

1) การหาตลาดผ่าน niche keywords - วิธีนี้เป็นวิธีที่ผมว่าง่ายที่สุดในบรรดา 3 วิธีทั้งหมด คือว่าถ้าใครมี keyword research tool ดีๆก้อสามารถจะหา niche keywords ได้ง่าย tool ที่แนะนำก้อคือ Keyword Elite, Keywords Analyzer, Keyword Discover and WordTracker (ซึงไม่ต้องซื้อทั้งหมดนะครับ 1 อันก้อพอแล้วครับ)

โดยวิธีการหา ก้อให้ดู keywords ที่มี competitors ไม่มาก (ถ้าไม่มี competitors เลยสิน่าแปลก...เพราะส่วนตัวผมแล้วถ้าเป็นสินค้าที่สามารถทำกำไรได้ดีจิงๆ ยังงัยก้อต้องมี competitors ครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะมีมากหรือน้อย....) มีจำนวนการค้นหาสูงพอสมควร และที่สำคัญต้องดูว่า keywords ในอยู่ในตลาดที่เป็นที่ต้องการทาง Internet หรือไม่ ซึ่งตลาดที่เป็นที่ต้องการใน Internet ก้อมีคราวๆดังนี้ Web Hosting, Make Money, Loan, Travel, Credit, Health, Dating เป็นต้น พวกนี้เป็นพวกที่มีการแข่งขันสูงมาก (นั่นแปลว่ามันทำกำไรได้ดีมากๆๆ แต่ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่จิงๆ....)

2) การหาตลาดผ่าน forums, webboards, news and group - วิธีนี้ส่วนตัวผมว่าใช้เวลามากกว่าวิธีเหลือ แต่ก้อให้ผลได้ดีมาก คุณรู้มั้ยครับว่า การหาตลาดผ่านพวกนี้ต้องใช้เวลา การให้ความรู้ การสร้างความสัมพันธ์อันดีใน forum เพื่อที่จะได้ศึกษาถึงความต้องการของคนใน forum นั้นๆๆๆ

คำแนะนำ เมื่อเลือกตลาดที่ตัวเองต้องการแล้วให้ทำการค้นหา forum ดังๆ ฮืต เพื่อทำการค้นหาความต้องการในตลาดนั้นๆต่อไป อาทิ เช่น สมมุติว่าผมสนใจเรื่อง Web hosting ดังนั้นผมควรจะต้องเข้าไปใน forums ต่างๆ ของ web hosting โดยเฉพาะ (ค้นหาได้ใน google พิมพ์ ว่า web hosting + forum)
แล้วทำการสร้างความสัมพันธ์ ความรู้ เพื่อใช้ในการค้นหาต่อไป เป็นต้น

3) การหาตลาดผ่าน niche content - วิธีนี้ผมแนะนำให้สำหรับคนชอบอ่าน articles newsletter blog press-released โดยให้หา articles อ่านให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งจะรู้ได้งัยว่าพอแล้ว??? คำตอบก้ออยู่ที่ว่าคุณเองได้หาคำตอบ หรือสามารถตอบคำถามต่างๆ ได้เพียงพอแล้วหรือยังสำหรับการที่จะบุกเบิกตลาดนั้น (ซึง guideline ผมได้ทำไว้แล้ว ดูได้ที่http://www.zmakemoney.com/free-ebooks.php)

นี่เป็นเพียงหลักใหญ่ในการหา niche market ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ เช่น เราจะหา niche keywords ได้ที่ไหน หา forums ดังๆ และฮิตได้อย่างไรในเมื่อมันมีมากๆเหลือเกิน หรือเราต้องอ่าน niche content ที่ไหน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมได้รวบรวม (แต่ยังไม่สมบูรณ์มากนะครับ)ไว้แล้วในหนังสือของผมที่ชื่อว่า Find-Hot-Niche-Keywords-n-Markets ซึ่งหาได้ที่http://www.zmakemoney.com/free-ebooks/Find...s-n-Markets.pdf

แต่ไม่ต้องตกใจไปนะครับ ผมมีข่าวดีสำหรับเพื่อนๆ ผมกำลังจะจัดทำสินค้าโฆษณาที่ผมได้เคยได้ทำกำไรมาแล้วรวมทั้งสินค้าที่เป็น niche ที่ผมกะทีมงานได้ทำมาในช่วงที่ผ่านมานี้ อดใจรอนิดนึงนะครับ ไม่นานมาก Cheesy

Quote
แล้วผมจะหาข้อมูลจากที่ไหนมาสนับสนุนทำการวิจัยการตลาดครับ เอ หรือ คิดเอาเองหรือครับ

คำตอบคือไม่สามารถคิดเองได้ครับ ทางที่ดีควรมีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถึอได้สนับสนุนนะครับ

Quote
แล้ว content ที่ว่านี่เขียนเอง ผมเข้าใจว่าเขียน content ขึ้นมาเพื่อทำการโคดสะนาทาง email marketing ใช่หรือป่าวครับ หรือครอบคลุมถึงการทำ adword ด้วยครับ

คือว่า content ที่ทำมานั้นสามารถกระจายได้มากมายหลายวิธีครับ ที่ผมทำอยู่ก้อมี email, article, blog, press-released and ebook นะครับ (content แต่ละอันก้อแตกต่างกันนิดๆหน่อยๆนะครับ) ส่วนถ้าเป็น adwords เนี่ยเราจะได้ประโยชน์ทางอ้อมครับ คือ
1) ถ้าเรา link มายังหน้า article แล้ว (โดยทั่วไปแล้ว article นั้นจะประกอบไปด้วย keywords ที่มากพออยู่แล้ว) จะทำให้อันดับของเราดีมาก และเราเองก้อสามารถ bid price ได้ถูกลงนะครับ
2) บ่อยครั้งที่ผมได้ keywords ใหม่ๆจาก article นะครับ รวมไปถึงความเข้าใจในตลาดที่กำลังศึกษา กำลังทำการโฆษณาสินค้าอยู่ (ส่วนตัวผมเป็นคนชอบอ่านนะครับ Cheesy)
3) การที่เรามี articles เยอะๆใน website เราทำให้ website เราน่าเชื่อถือมาก และจะทำให้เมือเราส่งลูกค้าจาก adwords มา Google จะให้ QS เราสูงมากขึ้นนะครับ

สุดท้ายอยากบอกว่า ค่อยๆหาตลาดไปครับ โดยเริ่มที่แต่ละวิธีในข้างต้นก่อนก้อได้ครับ (ระหว่างรอผมจัดทำหนังสือรวบรวมสินค้าทำเงินได้ดีและสินค้าที่เป็น niche Smiley) ลองเปลี่ยนวิธีการจากการทำการโฆษณาไปเรื่อยๆ มาเป็นการหาตลาดไปเรื่อยๆดูครับ แรกๆอาจไม่ชิน ก้ออยากให้เริ่มอย่างง่ายๆก่อน แบ่งเวลาศึกษาตลาดบ้างครับ อย่าสนใจในสินค้ามากกว่าตลาด เพราะว่าสินค้าที่เราคิดว่าดี อาจจะไม่ได้ทำเงินให้เรามาก แต่ม้นก้อไม่ได้แปลว่า ตลาดไม่สามารถทำเงินได้หนิครับ?Huh? ใช่มั้ยครับ??? Cheesy

หวังว่าคงได้ไอเดียนะครับ ถ้ามีปัญหาไรก้อถามเพิ่มเติมได้นะครับ ยินดีเสมอครับ

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จวันเดียวครับ ใจเย็นๆค่อยๆทำไปนะครับ

ปล. สิ่งสำคัญเมื่อเจอตลาดที่สามารถทำเงินได้แล้ว ต่อจากนั้นก้อคือ marketing channels ที่เราจะต้องทำการโฆษณา ซึ่ง Adwords เป็นเพียงแค่ 1 ทางเท่านั้นเองครับ ยังมีอีกหลายๆๆวิธีที่ทำเงินได้เพิ่มขึ้น ไม่อยากให้เพื่อนที่ท้อจาก Adwords แล้วท้อต่อไปในการทำเงินในธุรกิจนี้นะครับ เพราะว่ามีอีกหลายวิธีมากๆที่จะช่วยเราทำเงินได้นะครับ เชื่อผม! เพราะว่าผมเองก้อเคยเป็นคนที่ท้อแท้ใน Adwords ในสมัยก่อนมาแล้วครับ Smiley


>>>>>>>>>>>

ขั้นแรกสุดก้อคือการหาตลาดที่กำลังฮิตหรือเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปก่อน
ขั้นสองคือการทำการหา products and services เพื่อรองรับความต้องการนั้น
ขั้นสามคือ ไม่มีใครรู้ได้ว่าเราทำการหาตลาดถูกหรือไม่ จนกว่าจะได้ทดสอบครับ Smiley สำคัญมาก โดยการทดสอบก้อให้ทำการทดสอบสินค้าในตลาดนั้นว่าเป็นที่ต้องการหรือไม่??? ถ้าไม่ใช่ เราสามารถหาสินค้าอื่นได้มั้ย??? หรือว่าเราวิเคราะห์ตลาดผิด?Huh? แล้วเราสามารถหาตลาดที่ใกล้เคียงได้มั้ย???

จากที่ผมได้ทำมาผมได้แยกออกเป็น 3 วิธีหลักดังนี้

1) การหาตลาดผ่าน niche keywords
2) การหาตลาดผ่าน forums, webboards, news and groups ต่างๆ
3) การหาตลาดผ่าน niche content

โดยแต่ละอันมีรายละเอียดเยอะมาก ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้

1) การหาตลาดผ่าน niche keywords - วิธีนี้เป็นวิธีที่ผมว่าง่ายที่สุดในบรรดา 3 วิธีทั้งหมด คือว่าถ้าใครมี keyword research tool ดีๆก้อสามารถจะหา niche keywords ได้ง่าย tool ที่แนะนำก้อคือ Keyword Elite, Keywords Analyzer, Keyword Discover and WordTracker (ซึงไม่ต้องซื้อทั้งหมดนะครับ 1 อันก้อพอแล้วครับ)

โดยวิธีการหา ก้อให้ดู keywords ที่มี competitors ไม่มาก (ถ้าไม่มี competitors เลยสิน่าแปลก...เพราะส่วนตัวผมแล้วถ้าเป็นสินค้าที่สามารถทำกำไรได้ดีจิงๆ ยังงัยก้อต้องมี competitors ครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะมีมากหรือน้อย....) มีจำนวนการค้นหาสูงพอสมควร และที่สำคัญต้องดูว่า keywords ในอยู่ในตลาดที่เป็นที่ต้องการทาง Internet หรือไม่ ซึ่งตลาดที่เป็นที่ต้องการใน Internet ก้อมีคราวๆดังนี้ Web Hosting, Make Money, Loan, Travel, Credit, Health, Dating เป็นต้น พวกนี้เป็นพวกที่มีการแข่งขันสูงมาก (นั่นแปลว่ามันทำกำไรได้ดีมากๆๆ แต่ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่จิงๆ....)

2) การหาตลาดผ่าน forums, webboards, news and group - วิธีนี้ส่วนตัวผมว่าใช้เวลามากกว่าวิธีเหลือ แต่ก้อให้ผลได้ดีมาก คุณรู้มั้ยครับว่า การหาตลาดผ่านพวกนี้ต้องใช้เวลา การให้ความรู้ การสร้างความสัมพันธ์อันดีใน forum เพื่อที่จะได้ศึกษาถึงความต้องการของคนใน forum นั้นๆๆๆ

คำแนะนำ เมื่อเลือกตลาดที่ตัวเองต้องการแล้วให้ทำการค้นหา forum ดังๆ ฮืต เพื่อทำการค้นหาความต้องการในตลาดนั้นๆต่อไป อาทิ เช่น สมมุติว่าผมสนใจเรื่อง Web hosting ดังนั้นผมควรจะต้องเข้าไปใน forums ต่างๆ ของ web hosting โดยเฉพาะ (ค้นหาได้ใน google พิมพ์ ว่า web hosting + forum)
แล้วทำการสร้างความสัมพันธ์ ความรู้ เพื่อใช้ในการค้นหาต่อไป เป็นต้น

3) การหาตลาดผ่าน niche content - วิธีนี้ผมแนะนำให้สำหรับคนชอบอ่าน articles newsletter blog press-released โดยให้หา articles อ่านให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งจะรู้ได้งัยว่าพอแล้ว??? คำตอบก้ออยู่ที่ว่าคุณเองได้หาคำตอบ หรือสามารถตอบคำถามต่างๆ ได้เพียงพอแล้วหรือยังสำหรับการที่จะบุกเบิกตลาดนั้น (ซึง guideline ผมได้ทำไว้แล้ว ดูได้ที่http://www.zmakemoney.com/free-ebooks.php)

นี่เป็นเพียงหลักใหญ่ในการหา niche market ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ เช่น เราจะหา niche keywords ได้ที่ไหน หา forums ดังๆ และฮิตได้อย่างไรในเมื่อมันมีมากๆเหลือเกิน หรือเราต้องอ่าน niche content ที่ไหน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมได้รวบรวม (แต่ยังไม่สมบูรณ์มากนะครับ)ไว้แล้วในหนังสือของผมที่ชื่อว่า Find-Hot-Niche-Keywords-n-Markets ซึ่งหาได้ที่http://www.zmakemoney.com/free-ebooks/Find...s-n-Markets.pdf

แต่ไม่ต้องตกใจไปนะครับ ผมมีข่าวดีสำหรับเพื่อนๆ ผมกำลังจะจัดทำสินค้าโฆษณาที่ผมได้เคยได้ทำกำไรมาแล้วรวมทั้งสินค้าที่เป็น niche ที่ผมกะทีมงานได้ทำมาในช่วงที่ผ่านมานี้ อดใจรอนิดนึงนะครับ ไม่นานมาก Cheesy

Quote
แล้วผมจะหาข้อมูลจากที่ไหนมาสนับสนุนทำการวิจัยการตลาดครับ เอ หรือ คิดเอาเองหรือครับ

คำตอบคือไม่สามารถคิดเองได้ครับ ทางที่ดีควรมีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถึอได้สนับสนุนนะครับ

Quote
แล้ว content ที่ว่านี่เขียนเอง ผมเข้าใจว่าเขียน content ขึ้นมาเพื่อทำการโคดสะนาทาง email marketing ใช่หรือป่าวครับ หรือครอบคลุมถึงการทำ adword ด้วยครับ

คือว่า content ที่ทำมานั้นสามารถกระจายได้มากมายหลายวิธีครับ ที่ผมทำอยู่ก้อมี email, article, blog, press-released and ebook นะครับ (content แต่ละอันก้อแตกต่างกันนิดๆหน่อยๆนะครับ) ส่วนถ้าเป็น adwords เนี่ยเราจะได้ประโยชน์ทางอ้อมครับ คือ
1) ถ้าเรา link มายังหน้า article แล้ว (โดยทั่วไปแล้ว article นั้นจะประกอบไปด้วย keywords ที่มากพออยู่แล้ว) จะทำให้อันดับของเราดีมาก และเราเองก้อสามารถ bid price ได้ถูกลงนะครับ
2) บ่อยครั้งที่ผมได้ keywords ใหม่ๆจาก article นะครับ รวมไปถึงความเข้าใจในตลาดที่กำลังศึกษา กำลังทำการโฆษณาสินค้าอยู่ (ส่วนตัวผมเป็นคนชอบอ่านนะครับ Cheesy)
3) การที่เรามี articles เยอะๆใน website เราทำให้ website เราน่าเชื่อถือมาก และจะทำให้เมือเราส่งลูกค้าจาก adwords มา Google จะให้ QS เราสูงมากขึ้นนะครับ

สุดท้ายอยากบอกว่า ค่อยๆหาตลาดไปครับ โดยเริ่มที่แต่ละวิธีในข้างต้นก่อนก้อได้ครับ (ระหว่างรอผมจัดทำหนังสือรวบรวมสินค้าทำเงินได้ดีและสินค้าที่เป็น niche Smiley) ลองเปลี่ยนวิธีการจากการทำการโฆษณาไปเรื่อยๆ มาเป็นการหาตลาดไปเรื่อยๆดูครับ แรกๆอาจไม่ชิน ก้ออยากให้เริ่มอย่างง่ายๆก่อน แบ่งเวลาศึกษาตลาดบ้างครับ อย่าสนใจในสินค้ามากกว่าตลาด เพราะว่าสินค้าที่เราคิดว่าดี อาจจะไม่ได้ทำเงินให้เรามาก แต่ม้นก้อไม่ได้แปลว่า ตลาดไม่สามารถทำเงินได้หนิครับ?Huh? ใช่มั้ยครับ??? Cheesy

หวังว่าคงได้ไอเดียนะครับ ถ้ามีปัญหาไรก้อถามเพิ่มเติมได้นะครับ ยินดีเสมอครับ

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จวันเดียวครับ ใจเย็นๆค่อยๆทำไปนะครับ

ปล. สิ่งสำคัญเมื่อเจอตลาดที่สามารถทำเงินได้แล้ว ต่อจากนั้นก้อคือ marketing channels ที่เราจะต้องทำการโฆษณา ซึ่ง Adwords เป็นเพียงแค่ 1 ทางเท่านั้นเองครับ ยังมีอีกหลายๆๆวิธีที่ทำเงินได้เพิ่มขึ้น ไม่อยากให้เพื่อนที่ท้อจาก Adwords แล้วท้อต่อไปในการทำเงินในธุรกิจนี้นะครับ เพราะว่ามีอีกหลายวิธีมากๆที่จะช่วยเราทำเงินได้นะครับ เชื่อผม! เพราะว่าผมเองก้อเคยเป็นคนที่ท้อแท้ใน Adwords ในสมัยก่อนมาแล้วครับ Smiley
>>>>>>>>>>>

ถ้าขยายทุกธุรกิจในแนวทางเดียวกันกับ Adwords ก้อแนะนำให้หันไปทำการโฆษณาผ่าน ppc engines ตัวอื่นเช่น Overture, Miva, Enhance, Goclick เป็นต้น

แต่ถ้าต้องการขยายช่องทางของธุรกิจก้อหันไปหาพวก blogging, article marketing, email marketing, เป็นต้นนะครับ
ข้อที่ 1


อืมมม อยากบอกว่าคำถามดีมากครับ แต่ว่าคำตอบเยอะมากครับ ซึ่งผมได้จัดทำ review keyword tool ต่างๆในตลาดทั้งหมดอยู่แล้วใน blog ของผมเอง หาอ่านได้ที่ ผมไม่คิดว่าผมสามารถใส่รายละเอียดทั้งหมดลงไปในนี้ได้นะครับ ถ้ายังงัยลองเข้าไปอ่านที่http://www.zKeywordTool.com/blog ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับเพื่อนๆนะครับ (แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ Cheesy) และถ้ามีคำถาม ก้อสามารถถามได้เลยนะครับ ยินดีตอบเสมอครับ Smiley

แต่ผมจะสรุปให้ฟังคราวๆดังนี้นะครับ

ก่อนที่เราจะเลือกว่าเราจะใช้ keyword tool อันไหน เราควรสำรวจตัวเองก่อนว่าเราจะนำ keyword research tool นั้นไปใช้ในงานประเภทไหน (จำไว้ครับนี้เป็นธุรกิจ ดังนั้นถ้าจะลงทุนอะไรก้อตาม ก้อต้องสำรวจความต้องการของเราเองเสียก่อนว่าเราต้องการอะไร) ซึ่งผมได้แยกประเภทออกเป็นทั้งหมด 4 กลุ่มดังนี้ครับ

1) พวกที่ต้องการนำไปใช้งานด้าน SEO - ถ้าเป็นคนจำพวกนี้ผมอยากแนะนำให้ใช้ keyword discovery

2) พวกที่ต้องการใช้ในการหา niche keywords เพียงอย่างเดียว - ก่อนหน้านี้ผมแนะนำให้ใช้ keywords analyzer ควบคู่กับ keyword discovery ในการหา niche keyword เพียงอย่างเดียว
แต่หลังจากที่ผมได้ลองเล่น การหา niche hot keywords จาก website ที่ผมได้บอกเพื่อนๆไปแล้วก่อนหน้านี้ ผมก้ออยากจะแนะนำด้วยนะครับ เพราะว่าเราเสียค่าสมาชิกแค่ $1 สำหรับ Trail ใน 7 วัน ซึ่งก้อน่าจะมากพอในการ get niche hot keywords นะครับ Smiley

3) พวกที่ต้องการใช้เพื่อทำการโฆษณาผ่าน PPC (e.g. Adwords, Overture, Miva, ...) - ผมแนะนำอยู่ 2 ตัวจากทั้งหมดที่มีเป็นสิบนะครับ คือ keyword elite และ keywords analyzer

4) พวกที่ต้องการใช้หา keywords สำหรับ AdSense - ผมแนะนำอันเดียวเลยครับคือ Keyword Country (สำหรับก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้อยากแนะนำเพิ่มคือ keyword community ที่อยู่ในหนังสือของผม - Find-Hot-Niche-Keywords-n-Markets.pdf)

ข้อที่ 2
ส่วนใหญ่ keyword tool ที่ผมแนะนำไปนั้นบอกจำนวนคู่แข่ง จำนวน web page ต่างๆที่ใช้ ค่า KEI และอื่นๆอีกมากครับ

ส่วน search engine ไหนบ้างนั้นก้อมีดังนี้ครับ

ถ้าเป็น Adwords - ก้อมีหลายตัวที่ให้ข้อมูล keywords ได้เยอะมาก และแม่นยำมาก อาทิ เช่น Keyword Elite, Keywords Analyzer, Keywords Domination, WordTracker (Full Version - not trial version) เป็นต้นครับ

keyword elite
ข้อดี - เกือบจะ perfect ในสายตาผมเลยนะครับ สามารถ generate keyword list ได้เยอะและแม่นยำมาก, nice interface, สามารถใช้งานร่วมกับ keyword discovery และ wordtracker ได้โดยตรง, เหมาะสำหรับ Adwords and AdSense, มี spy competitor analysis
ข้อเสีย - ราคาแพงไปสักหน่อย ($167)

keywords analyzer - ผมว่าตัวนี้เป็นคู่แข่งโดยตรงของ keyword elite นะครับ บาง website ที่ผมได้ทำ research มา ยกให้ตัวนี้เป็น No.#1 เพราะว่า feature เยอะ และไม่แพงมาก
ข้อดี - เหมาะมากสำหรับใช้หา keyword เพื่อทำการโฆษณาใน Adwords, สามารถ import keyword data จาก wordtracker and keyword discovery ได้, สามารถเข้าถึงข้อมูลของ keyword ได้หลายๆชั้น (allow you to drill down multiple level of keywords), วิเคราะห์ keyword competitor ได้ดีมาก, ราคาเหมาะสม ($97)
ข้อเสีย - ถ้าทำการ import keyword data จาก wordtracker and keyword discover แล้วจะทำให้การวิเคราะห์ได้ค่าข้อมูลไม่แม่นยำ 100%, ใช้ไม่ค่อยได้กับ AdSense (มีตัวอื่นที่เก่งด้านนี้มากกว่า)

keyword domination - เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้าง keywords list เยอะมากๆๆๆๆๆ (over 10,000) สำหรับ Adwords และเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแปลภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาอื่นๆ
ข้อดี - สามารถ generate keywords ได้เยอะมากๆๆๆๆ ที่สุดเลยครับ, เหมาะสำหรับหา keyword เพื่อใช้ใน Adwords
ข้อเสีย - ไม่มีการวิเคราะห์ถึงข้อมูลของ competitors นะครับ

wordtracker - นี้เป็นอีกตัวหนึ่งที่มาแรง (จิงๆอาจมีการใช้งานกันอย่างกว้างขวางอยู่แล้ว) ในต่างประเทศนะครับ
ข้อดี - ใช้ฐานข้อมูล keyword ของตัวเอง (คือพูดง่ายๆว่าไม่เหมือนใครนั่นเองครับ), สามารถเข้าถึงข้อมูล keyword ได้หลาย level, เป็น web based application แปลว่าสามารถรันที่ไหนก้อได้
ข้อเสีย - ไม่ strong พอสำหรับการทำโฆษณาผ่าน PPC นะครับ (แต่เท่าที่รู้มาคือเค้าก้อพยายามปรับปรุงกันอยู่นะครับ), การวิเคราะห์ถึงข้อมูลของคู่แข่งไม่ดีและมากพอ

ถ้าเป็น Overture - ก้ออยากแนะนำให้ใช้ keyword elite or keywords analyzer นะครับ
ถ้าเป็น Miva - ก้ออยากให้ใช้ keyword elite เหมือนกันครับ
ถ้าเป็น Enhance - ก้อแนะนำ keyword elite นะครับ

จิงๆยังมี keyword tool อื่นๆอีกมากที่ไม่ได้อธิบายในนี้นะครับ เช่น AdWord Domination, AdSense Domination, AdWord Analyzer (ตัวนี้เป็นตัวใหม่นะครับ เหมาะมาสำหรับ Google Adwords เพียงอย่างเดียว แนะนำสำหรับคนที่ต้องการทำ article marketing ครับ), Rapid Keyword, TopPayingKeywords, ClickAdEqualizer (หรือ AdWordEqualizer นั่นเอง), และ PPC Toolkit เป็นต้น ซึ่งสนใจสามารถหาอ่านที่ได้ http://www.zKeywordtool.com/blog นะครับ

สุดท้ายคำแนะนำคือ ถ้ามี budget มากพอและคิดว่าจะใช้ใน AdWords and AdSense ก้อแนะนำ keyword elite ครับ แต่ถ้ามีไม่มากพอ ก้อแนะนำให้ใช้ Keywords Analyzer นะครับ
ผมคิดว่าเพื่อนๆในที่นี้คงทำแต่ Adwords เพราะฉะนั้นน่าจะ focus ไปที่ Keyword Elite หรือไม่ก้อ Keywords Analyzer เท่านั้นนะครับ ส่วนถ้าเป็น AdSense ก้อแนะนำ keyword Country ครับ

นอกเหนือจากที่ได้แนะนำไปแล้วอยากให้ลองไปเล่นดูที่ website ที่ผมบอกในหนังสือนะครับ ผมว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ

หวังว่าคงได้คำตอบนะครับ แต่ถ้ามีคำถามก้อ post ได้เลยนะครับ จะรีบเข้ามาตอบให้นะครับ Smiley

ปล. ถ้าซื้อผ่าน zkeywordtool.com ผมมี gifts เล็กๆน้อยให้นะครับ (อันนี้แล้วแต่นะครับ ไม่ว่ากัน แต่อยากให้อ่านเนื้อหาที่ผมได้จัดทำขึ้นมามากกว่านะครับ)

ขอให้สนุกนะครับ
>>>>>>>>>>

ตอบที่ละข้อนะครับ

1. เท่าที่ผมได้ทำการสำรวจ keyword tool มาพักใหญ่ ผมว่ายังไม่มี tool ตัวไหนนำข้อมูลมาจาก database ของ MSN AdCenter นะครับ อาจจะเป็นเพราะว่า MSN AdCenter เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ แล้ว tool ส่วนใหญ่มีการเก็บฐานข้อมูลของ keyword ประมาณ 6 เดือนนะครับ ตามความคิดผม ผมว่าน่าจะมี keyword tool ที่ใช้บอกรายละเอียดสำหรับ adcenter ภายในปีนี้นะครับ ตัวที่น่าจับตามองก้อคือ keywords analyzer (คู่แข่งตัวฉกาจของ keyword elite ในสายตาผม Cheesy)

2 ช่วยอธิบายอีกนิดได้มั้ยครับ กลัวว่าจะเข้าใจไม่ตรงกัน คำถามคือว่าใน keyword elite นั้นจะทำการ search ค้นหา keyword ของ เอกพจน์และพหูพจน์ ต่างกันใช่มั้ยครับ Cheesy รวมทั้งพวก - และ 's ถูกต้องหรือป่าวครับ Smiley

3 มีเหมือนกันนะครับ รู้สึกว่าจะชื่อ Misspelling Generator อะไรประมาณเนี่ยนะครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับว่าชื่อไรแน่ (ขอไป check ดูก่อนนะครับ แล้วจะมาบอก) ซึ่ง tool ตัวนั้นบอกรายละเอียดต่างๆของ misspelling ได้เป็นอย่างดี เช่น จำนวนการค้นหา คู่แข่ง ราคา bid เป็นต้น (รู้สึกว่าจะเป็น bonus ของ keyword tool ตัวไหนสักอันนะครับ จำไม่ได้ครับ มันเยอะ - ไว้ได้รายละเอียดมากกว่านี้แล้วจะนำมาบอกนะครับ บังเอิญว่าตอนนี้ผมไม่ได้ใช้ laptop ของตัวเองอยู่นะครับ Cheesy)

สุดท้ายนะครับ ขอเข้าเรื่อง การวิจัยตลาดต่อนะครับ

ตอนนี้ผมได้รวบรวม affiliate program (สินค้าที่ผมได้ทำกำไรมาแล้ว) ที่เป็นทั้งแบบธรรมดา และแบบ residual เสร็จไปบ้างแล้วจะทยอยนำมาให้เพื่อนๆนะครับ (ขอ check รายละเอียดอีกสักหน่อยนะครับ) ตลาดหลักๆก้อจะเป็น make money, trading, affiliate marketing tool, niche markets เป็นต้น

หวังว่าคงได้คำตอบนะครับ

ขอให้สนุกนะครับ
>>>>>>>>

อืมมม พูดกันตรงๆนะครับ เหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้ครับ แต่ว่ามันมีทางแก้ไขอย่างแน่นอนครับ พูดง่ายๆก้อคือว่าไม่เสียป่าวครับ Smiley

ถามว่าทำแล้วเสียเวลามั้ย?Huh? เสียเวลาไปมากเหมือนกันครับสำหรับการทำตลาด แต่ว่าสิ่งที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่ามากครับ Smiley ยิ่งคนที่เป็นมือใหม่ หรือคนที่ไม่เคยทำ ก้อต้องใช้เวลามากเป็นธรรมดาครับผม แต่ถ้าเราทำเป็นประจำหรือทำบ่อยๆแล้ว การหาตลาดนั้นก้อไม่ได้กินเวลามากอย่างที่คิดนะครับ

ผมอยากจะแนะนำเพื่อนๆที่เพิ่งทำใหม่ๆ ให้แบ่งเวลาสำหรับการหาตลาดดูบ้างครับ เช่น ทุกวันนี้เราอาจจะใช้เวลาทั้งหมดในการหาสินค้าเพื่อทำการโฆษณา โดยเราใช้เวลาทั้งหมด 4 ชม.ต่อวันในการหาสินค้า และ get links สิ่งที่อยากบอกคือว่าให้แบ่งเวลาออกมาเป็น 3 กับ 1 ก้อได้ครับ โดย 1 ชมต่อวันนั้นให้ทำการหาตลาด ดู forum, news, search, หา niche keywords, อ่าน articles เป็นต้น ส่วน 3 ชมก้อยังทำเหมือนเดิมก้อได้ครับคือหาสินค้าไปเรื่อยๆ ซึ่งมันอาจจะช้าในช่วงแรกๆๆนะครับ แต่ว่าพอทำไปได้สักระยะ เราจะรู้สึกว่าไม่ได้กินเวลาเรามาก แล้วขอย้ำนะครับว่าสิ่งที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่าครับ ไม่เสียแรงป่าวแน่นอนครับ

อีกอย่างครับจากที่ดูจากการ post นั่นแปลว่าเรายึด adwords เป็นหลักเพียงอย่างเดียว ส่วนตัวผมเองไม่ได้ยึด adwords เพียงอย่างเดียวนะครับ ยังมีอีกหลายๆๆวิธีในการโฆษณาสินค้าที่เราได้ทำตลาดมาแล้วนะครับ

แล้วถามว่าถ้าต้องการทำใน adwords อย่างเดียวหละครับจะทำยังงัย?Huh? คำตอบก้อคือพยายามหา niche keywords จิงๆ อันนี้ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า ไม่ว่าเราจะหาตลาดยังงัยก้อแล้วแต่ สุดท้ายแล้วก้อมีคู่แข่งอยู่ดีนะครับ (จากที่ผมทำมานะครับ) เพราะฉะนั้นผมอยากบอกในตอนนี้ก่อนว่าเราควรจะดูที่ตัวเองนะครับว่าเราสามารถหา niche keywords จิงๆได้มากพอมั้ย สร้างความ relevancy ระหว่าง keywords-adcopy-landing page ได้มากพอมั้ย หรือ สร้าง relevancy & rich keywords landing page มากๆ ได้มั้ย

short cut:
ถ้าเป็นการหาตลาดผ่าน niche keywords โดยปกติผมจะใช้ Traffic Estimator ใน Google เพื่อเป็น guideline นะครับ แต่ค่าที่ได้มานั่นไม่ถูกต้อง 100% นะครับ เป็นเพียง guideline ซึ่ง การประเมินผ่านTraffic Estimator ของแต่ละคนก้อไม่เท่ากันนะครับ เพราะว่า Traffic Esitmator จะประเมินผ่าน performance history ของแต่ละคนด้วยครับ

ถ้าเป็นการหาตลาดผ่าน niche content/articles/news ผมก้อจะนำไปหา niche keywords ต่อไปนะครับ เช่น ถ้าผมอ่าน article ที่เกี่ยวกับ spyware แล้วผมรู้ว่ามีคนมากมายที่มีปัญหาเกี่ยวกับ spyware ผมก้อจะนำไปคิดต่อว่า niche keywords ควรจะเป็นอะไร เช่น get rid of spyware, how to get rid of spyware, how to remove spyware, no spyware เป็นต้น จากนั้นก้อจะนำไปใส่ใน Traffic Estimator เพื่อเป็น guideline

short cut สุดๆ
ตอนนี้ผมกำลังรวบรวม สินค้าที่ผมทำกำไรมา เพื่อนำมาแชร์กับเพื่อนๆอยู่นะครับ อดใจรอนิดนึงนะครับ

สุดท้ายคำแนะนำเกี่ยวกับการตลาดครับ
การตลาดที่เป็นพวก season ก้อน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีครับ เช่นช่วงนี้ก้อน่าจะเป็นเรื่องของ Halloween Costume, Thanksgiving day in November เป็นต้น

ส่วนการตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่น make money, web hosting, satellite เป็นต้น สามารถทำกำไรให้เราได้มาก อย่าคิดว่ามีคู่แข่งมากแล้วเราไม่สามารถทำกำไรได้นะครับ จิงๆแล้วตลาดมันใหญ่ครับ ยังงัยเราก้อสามารถทำเงินได้จากตลาดที่มีการแข่งขันสูงอยู่แล้วครับ ยิ่งมีคู่แข่งมากก้อนั่นก้อแปลว่าตลาดนั้นสามารถทำเงินได้มากนั่นเอง Cheesy

อย่ากลัวที่จะแข่งขันครับ (ไม่ได้บอกว่าให้แข่ง bid price นะครับ Cheesy) แต่กำลังจะบอกว่าให้เรียนรู้วิธีการต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และก้ออย่าได้กลัวคู่แข่งครับ (พูดอาจจะง่าย แต่ทำยาก ก้อพยายามลองๆดูนะครับ ค่อยๆเริ่มก้าวเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูงที่ละนิดๆนะครับ เพราะว่าเม็ดเงินมันสูงครับ ไม่จำเป็นจะต้องรีบ ถ้ายังไม่แน่ใจก้อให้หาตลาดที่เป็นพวก season, niche ไปก่อนนะครับ)

ไม่ได้มี adwords เพียงอย่างเดียวในการทำโฆษณาสินค้านะครับ ลองๆดูทางเลือกอื่นๆเพื่อเป็นแนวทางเลือกและการขยายธุรกิจของเราด้วยก้อดีนะครับ (แต่เราเองก้อสามารถยึด adwords เป็นหลักได้อย่างไม่มีปัญหาครับ)

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียวนะครับ Smiley
>>>>>>>>>>>>
ถ้าขยายทุกธุรกิจในแนวทางเดียวกันกับ Adwords ก้อแนะนำให้หันไปทำการโฆษณาผ่าน ppc engines ตัวอื่นเช่น Overture, Miva, Enhance, Goclick เป็นต้น

แต่ถ้าต้องการขยายช่องทางของธุรกิจก้อหันไปหาพวก blogging, article marketing, email marketing, เป็นต้นนะครับ

>>>>>>>>>>



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก

ClustrMaps

ค้นหาบล็อกนี้